นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคประชาชนในเวทีปราศรัยหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ ว่าถือเป็นเรื่องดีที่เห็นบุคลากรทางการเมืองระดับประเทศหลายคนเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงหวังว่าประชาชนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีส่วนร่วมเข้ามาเลือกตั้งมากขึ้น ส่วนกรณี นายทักษิณ พูดถึงพรรคประชาชนถือเป็นการตั้งข้อกล่าวหาพูดเก่งแต่ทำไม่เป็น ว่าเป็นการแสดงความเห็นได้ แต่ต้องตั้งข้อสังเกตไปถึงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ด้วยหรือไม่ เนื่องจากหากดูผลงานที่ผ่านมา มีหลายอย่างที่การกระทำไม่สอดรับกับคำพูด ยกตัวอย่าง เรื่องค่าแรงงาน ค่าไฟฟ้า และร่างกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม สำหรับเรื่องค่าแรงที่รัฐบาลระบุจะให้ขั้นต่ำ 400 บาท แต่วานนี้ (23 ธ.ค. 67) ทราบว่ามติคณะกรรมการค่าจ้างปรับขึ้นค่าแรงไม่ถึง 400 บาทต่อวันในทุกจังหวัด มีเพียง 4 จังหวัดและ 1 อำเภอเท่านั้น รวมถึงเรื่องค่าไฟที่นายกฯ ปล่อยปละละเลย ไม่มีความพยายามให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ระงับสัญญาโครงการรับซื้อไฟฟ้า 3,600 เมกะวัตต์ ทั้งที่ทราบว่ากระบวนการรับซื้อดังกล่าวเป็นการกีดกันทางการค้า มีความไม่โปร่งใสเรื่องเกณฑ์ที่กำหนด และนายกฯ ทราบดีว่าหากปล่อยให้สัญญาเดินหน้าต่อไปจะทำให้ค่าไฟแพงกว่าที่ควรจะเป็น แม้มีการอ้างว่าไม่เป็นกรรมการ กพช. แต่มีรัฐมนตรีหลายคนเป็นกรรมการ จึงอาจกลายเป็นการที่นายกฯ ไม่มีอำนาจกำหนดทิศทางคณะรัฐมนตรีได้ นอกจากนี้ กรณีร่างกฎหมายจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ที่มีการประกาศจะเดินหน้าจะแก้ไขกฎหมายแต่กลับเปลี่ยนท่าทีถอนร่าง ตนจึงขอยก 3 ตัวอย่างนี้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สอดคล้องคำพูด แม้จะอ้างเป็นรัฐบาลผสม แต่เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชนหลังจัดตั้งรัฐบาลผสมซึ่งรัฐบาลรู้ข้อจำกัดนี้แล้วแต่ยังไม่สามารถผลักดันได้
นายพริษฐ์ กล่าวว่าส่วนตนไม่ติดใจทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาชนได้ แต่การเป็นรัฐบาลจะต้องทำตามที่สัญญาไว้ให้ได้ ถือเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ ส่วนข้อถามเรื่องสนามเลือกตั้ง อบจ. ของพรรคประชาชนจะต้องวางแผน ปรับกลยุทธ์เพิ่มหรือไม่นั้น เชื่อว่าทุกการเลือกตั้งเป็นประสบการณ์สำคัญที่พรรคต้องถอดบทเรียน และแม้ในสนามจะไม่ประสงค์ชัยชนะแต่คะแนนที่ได้มีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งพรรคไม่หมดกำลังใจ แต่จะพยายามขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้าและพร้อมกับถอดบทเรียนอย่างจริงจังเพื่อให้ดีขึ้น ทั้งการเลือกตั้งระดับชาติกับท้องถิ่นมีปัจจัยที่ไม่เหมือนกันทุกสนาม พรรคจะนำมาปรับปรุงเพื่อใช้ในการทำงานต่อไปและแม้การเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้คณะกรรมาการเลือกตั้ง จะประกาศกำหนดเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 68 ไม่ตรงกับวันอาทิตย์ แต่ขอเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์กันให้มาก โดยใช้โอกาสปีใหม่นี้พูดคุยกันในครอบครัวและจัดเวลาเพื่อเดินทางไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งไม่ว่าจะเลือกใครก็ตาม ต้องการเห็นการออกมาใช้สิทธิ์จำนวนมาก เพื่อจะได้ผู้บริหารท้องถิ่นมาผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์
ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง