นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคไทยก้าวหน้า แถลงข่าวถึงกรณีการล็อกสเปคบริษัทประกันภัย แรงงานต่างด้าว ปี 67 ว่าตามที่มีกระแสข่าวว่ากรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ออกเงื่อนไขล็อกสเปคสำหรับบริษัทที่มีสิทธิในการขายกรมธรรม์ให้กับแรงงานต่างด้าวจากทั้งหมด 17 บริษัท เหลือเพียง 2 บริษัท พบว่ามีการกำหนดสเปคใหม่ขึ้นมาเพิ่มเติมจากเดิม โดยมองว่าสเปคที่เพิ่มเติมมานั้นจะนำไปสู่การกีดกันบริษัทรายอื่นให้เหลือเพียงบริษัทหลักที่อาจมีผลประโยชน์กับฝ่ายข้าราชการ ฝ่ายการเมือง และกระทรวงแรงงาน ประกอบด้วย ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของการดำรงเงินกองทุนต่อเงินทองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Car Ratio) ไว้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 200 ณ สิ้นปี 66 และผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีสินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 66 จำนวนไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจึงตั้งข้อสังเกต ว่ากระทรวงแรงงานหรือกรมการจัดหางานไม่ได้เป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน แต่แรงงานต่างด้าวเป็นผู้ชำระเบี้ยเอง ย่อมมีสิทธิที่จะเลือกบริษัทประกันภัยตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนด นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีการกำหนดเงื่อนไขประกันภัยที่ใช้สินทรัพย์ เป็นตัวกำหนดความแข็งแกร่งของบริษัทประกันภัย เพราะในฐานะประเทศไทยเป็นสมาชิกของสมาคมผู้ควบคุมธุรกิจประกันภัยนานาชาติ ได้กำหนดมาตรฐานการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยข้อ 17 ความเพียงพอของเงินกองทุน และ คปภ.ได้กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 140% โดยยิ่งมากยิ่งดี บางบริษัทประกันวินาศภัยมีความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 400% แสดงถึงความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างมาก (Extremely Strong) แต่ไม่ได้รับเลือก จึงมองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีความไม่โปร่งใส
นายไชยามพวาน กล่าวเพิ่มเติมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงไปถึงการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ไม่รัดกุม ดังนั้นวันที่ 28 พ.ย. นี้ ตนเองจะยื่นเรื่องที่ศาลปกครองเพื่อพิจารณาขอระงับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวครั้งนี้ให้ได้ เพราะถือเป็นการทำที่หละหลวม ซึ่งบางคนเข้ามาอย่างผิดกฎหมายแต่ยังสามารถขึ้นทะเบียนได้ หากจะมองว่าเป็นการนิรโทษกรรมสามารถมองได้ แต่ท้ายที่สุดทุกคนต้องมีประกันที่สามารถใช้ได้เพียง 6 เดือนระหว่างรอขึ้นทะเบียนประกันสังคม อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการล็อกสเปคในกระบวนอย่างเห็นได้ชัด จากบริษัทประกันภัยทั้งหมด 17 บริษัท กลับมีเพียงแค่บริษัทอักษรย่อ ม.ม้า และบริษัทอักษรย่อ ธ.ธง ที่มีสิทธิ ขอให้ลองคิดว่านโยบายประกันภัยโควิด-19 ที่ผ่านมาเป็นของรัฐมนตรีคนใด เป็นคนเดียวกันกับผู้ที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในขณะนี้หรือไม่ ตนเองจะติดตามเรื่องนี้ต่อไปและจะนำประเด็นนี้เข้าสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอย่างแน่นอนเพราะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ระดับชาติ
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
