นายแพทย์วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวในรายการ Law talk กับสว. ถึงการระบาดของโรคไอกรนในเด็ก ว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาพบการระบาดของโรคดังกล่าวในหลายโรงเรียน ซึ่งเบื้องต้นมีการแก้ปัญหาโดยการสั่งปิดโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค ซึ่งโรคไอกรนหากพบในเด็กจะมีอาการรุนแรงและน่ากังวลเนื่องจากเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียอันตราย หากเด็กที่ติดโรคและไม่ได้ฉีดวัคซีนแบบแพ็คเกจที่เด็กในแต่ละช่วงวัยควรจะได้รับสำหรับป้องกันโรคต่าง ๆ อาจนำไปสู่อาการป่วยรุนแรงและมีผลทำให้เสียชีวิตได้
นายแพทย์วีระพันธ์ กล่าวถึงอาการของโรคไอกรน ว่ามีลักษณะเหมือนไข้หวัด แต่ลักษณะเสียงการไอจะเหมือนการกรน โดยหากเกิดในเด็กอาจทำให้เด็กหายใจไม่ออกและขาดออกซิเจนได้ ส่วนในวัยผู้ใหญ่จะพบได้น้อย และไม่ค่อยมีการเสียชีวิตเนื่องจากมีภูมิต้านทานมากกว่าเด็ก ส่วนเรื่องการดูแลรักษานั้นในเด็กต้องให้การดูแลเป็นพิเศษเช่นเดียวกับกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุ ที่เมื่อเป็นโรคดังกล่าวแล้วต้องแยกการรักษา ตรวจร่างกาย เก็บสารคัดหลั่งต่าง ๆ เพื่อวินิจฉัยโรคอย่างรัดกุม
นายแพทย์วีระพันธ์ ยังกล่าวถึงการป้องกันโรคไอกรน ในระดับการดำเนินงานของภาครัฐ จะต้องมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนหันมาดูแลรักษาสุขภาพของตนเองให้มีภูมิต้านทานป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับโรคระบาดเพื่อสามารถดูแลและป้องกันตนเองไม่ให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยประชาชนถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากประชาชนเป็นกำลังสำคัญของภาคแรงงาน ดังนั้นหากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายที่เอื้อให้ประชาชนมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ดำเนินงานโดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ย่อมสร้างประชาชนให้แข็งแรงเพื่อนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้าต่อไปได้
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
