4 พ.ย.67 - โฆษกพรรคประชาชน เผยเตรียมรณรงค์ขับเคลื่อนร่างกฎหมาย 7 ชุด ในช่วงปิดสมัยประชุม เน้น“เปิด-ปลดล็อก-ปฏิรูป” ยืนยันช่วยกำหนดวาระการทำงานของรัฐบาล และทำให้สังคมไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง

image

        นายพริษฐ์  วัชรสินธุ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะโฆษกพรรคประชาชน แถลงข่าวความคืบหน้าการผลักดันร่างกฎหมายที่เสนอโดยพรรคประชาชนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ว่า พรรคประชาชนได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเชิงรุก โดยยื่นร่างแก้ไขกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วยกระบวนการนิติบัญญัติ (Legislative Change) โดยร่างกฎหมายหลายฉบับที่พรรคประชาชนเสนอไปนั้นสอดคล้องกับ 300 นโยบายที่นำเสนอประชาชนไปในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ถือว่าเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนแม้ไม่ได้เป็นรัฐบาล นอกจากนี้ การที่พรรคประชาชนได้ยื่นร่างกฎหมายเข้าไปทำให้รัฐบาลต้องพิจารณาวิธีการแก้ไขปัญหาและเป็นการกำหนดวาระของรัฐบาล (Agenda Setting) แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้มีข้อเสนอที่ตรงกับพรรคประชาชน แต่ถ้ารัฐบาลยื่นร่างกฎหมายเข้ามาประกบและแก้ไขปัญหาได้บางส่วน ก็เป็นความสำเร็จในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าร่างกฎหมายที่พรรคประชาชนเสนอจะไม่ผ่านความเห็นชอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน แต่การใช้พื้นที่สภาเพื่ออธิบายกับสังคมว่าเหตุใดการแก้กฎหมายดังกล่าวเป็นประโยชน์ ทำให้ประชาชนเข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่พรรคประชาชนพยายามนำเสนอมากขึ้น

        นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า เมื่อพิจารณาจากสถิติของการเสนอร่างกฎหมายของพรรคประชาชน พบว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบ ถึง 16 ฉบับ ขณะที่มีร่างกฎหมาย 9 ฉบับที่ไม่ผ่านเห็นชอบ จึงเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าการเสนอร่างกฎหมายของพรรคประชาชนมีความสำคัญต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงแม้วันนี้พรรคประชาชนจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านก็ตาม และในช่วงปิดสมัยประชุม 6 สัปดาห์นี้ พรรคประชาชนจะใช้เวลาในการรณรงค์ผลักดันร่างกฎหมาย 7 ชุดสำคัญที่กำลังจะมีการพิจารณาในอนาคต ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น “2 เปิด” ได้แก่ 1. การเปิดโอกาสแข่งขันทางการค้า ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ที่จะปรับอำนาจและที่มาของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการป้องกันการผูกขาดและการกีดกันการแข่งขัน 2. การเปิดโปงการทุจริต ผ่าน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเกี่ยวกับสิทธิประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลรัฐและการคุ้มครองประชาชนที่ชี้เบาะแสการทุจริต ส่วน “2 ปลดล็อก” คือ 1. ปลดล็อกที่ดิน ผ่านการนิรโทษกรรมประชาชนที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับที่ดินทำกินอันสืบเนื่องจากการประกาศพื้นที่ของรัฐทับที่ที่ประชาชนอาศัยทำกิน รวมถึงการแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่ประสบปัญหาดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิ์ได้อย่างสะดวกมากขึ้น 2. ปลดล็อกการท่องเที่ยว ผ่านการแก้ไข พ.ร.บ.โรงแรมและ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ทั้งการอำนวยความสะดวกให้โรงแรมและที่พักหลากหลายประเภทสามารถขอใบอนุญาตได้สะดวกมากขึ้น และการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นในการออกใบอนุญาตโรงแรมและที่พัก

        โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการเสนอร่างกฎหมายในกลุ่ม “2 ปฏิรูป” ว่า ประกอบด้วย 1. ปฏิรูปกองทัพ ผ่าน พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม กฎหมายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร กฎหมายแก้ไขขอบเขตอำนาจศาลทหาร และการแก้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ให้มีความสมดุลระหว่างการรักษาความมั่นคงและสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากขึ้น 2. ปฏิรูปการศึกษา ผ่าน พ.ร.บ.การศึกษาฉบับใหม่ ที่พยายามคุ้มครองสิทธิของผู้เรียนในการเข้าถึงสิทธิในการเรียนฟรีอย่างน้อย 15 ปี รวมถึงสวัสดิการด้านการศึกษาต่าง ๆ และการปรับโครงสร้างการบริหารด้านการศึกษาให้มีการกระจายอำนาจทางการศึกษาให้โรงเรียนและผู้จัดการศึกษามากขึ้น ส่วน “1 ปกป้อง” คือ 1. ปกป้องสิ่งแวดล้อม ผ่าน พ.ร.บ. โลกรวน ที่เอาจริงมากขึ้นในการกำหนดและปรับลดกรอบเพดานก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรมในทุกปี พ.ร.บ.ขยะ ที่กำหนดมาตรฐานกลางในการจัดการขยะครบวงจร พ.ร.บ. PRTR ที่กำหนดให้ผู้ที่ครอบครอง-ปล่อย-เคลื่อนย้ายสารมลพิษ ต้องรายงานและเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและต่อสาธารณะ รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสิทธิด้านสิ่งแวดล้อม สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดทั้งหมด รวมทั้งสถานะของร่างกฎหมายที่พรรคประชาชนมีการเสนอเข้าไป รวมถึงสรุปเนื้อหาสาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับต่าง ๆ ได้ที่เว็บไซต์ https://promise.pplethai.org/

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ