31 ต.ค.67 - สส.ไชยามพวาน  พรรคไทยก้าวหน้า ขอนายกรัฐมนตรีปรับปรุงนโยบายขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว ปี 67 ให้รัดกุม หลังพบหลักฐานมีการลงทะเบียนเถื่อน หวั่นเป็นช่องทางอาชญากรรมข้ามชาติก่อเหตุในไทย

image

              นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคไทยก้าวหน้า กล่าวถึงปัญหาการก่อเหตุอาชญากรรมจากแรงงานต่างด้าว อาทิ การตั้งแก๊ง การทำร้ายนายจ้าง และการขู่วางระเบิด ซึ่งต้นตอปัญหาเหล่านี้มาจากระเบียบการขึ้นทะเบียนแรงงานของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่พึ่งประกาศเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเงื่อนไขตามระเบียบดังกล่าวที่ก่อให้เกิดช่องทางเอื้อให้โบรกเกอร์นายหน้าเรียกเก็บหลักฐานจากแรงงานนอกระบบ อาทิ สำเนาพาสปอร์ต สำเนาวีซ่า สำเนาบัตรประชาชนแรงงาน โดยการขอหลักฐานดังกล่าวระบุต่อท้ายถ้ามี นั่นหมายความว่า ไม่มีเอกสารดังกล่าวก็ได้ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ยังมีการระบุว่า หากไม่มีเอกสารอะไรเลย จะมีการสอบถามประวัติเพิ่มเติม เช่น ชื่อ นามสกุล สัญชาติ และหมายเลขโทรศัพท์ ตามดุลยพินิจของโบรกเกอร์ที่จะรับแรงงานนั้น และข้อมูลที่โบรกเกอร์ขอทั้งหมดจะมีการกรอกข้อมูลเข้าในเว็บไซต์ของกระทรวงแรงงาน ที่เรียกว่า Name List ซึ่งราชการจะเห็นแค่เพียงเอกสารตรงนี้ตามที่โบรกเกอร์กรอกเข้าไปเท่านั้นและอนุมัติผ่านจนได้ขึ้นทะเบียนเป็นแรงงานไทยเรียบร้อย ความหมาย คือ หากแรงงานไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน ก็สามารถจะขึ้นทะเบียนแรงงานในประเทศไทยและมีตัวตนรับรองโดยกรมจัดหางานได้ ตนจึงตั้งข้อสังเกตว่า หากมีแรงงานที่ก่อเหตุร้ายแรงและถูกให้ออกไปจากนอกประเทศ ก็จะหนีกลับมาทางช่องทางธรรมชาติเข้ามาใหม่ และจ่ายเงินเพียงแค่ค่าธรรมเนียมในการขึ้นทะเบียนแรงงาน 7,500 บาท เท่านั้น ก็สามารถมีตัวตนใหม่ได้ทั้งหมด ดังนั้น จึงเกรงว่าปัญหาภัยความมั่นคงเหล่านี้จะเกิดขึ้นซ้ำได้ เพราะใบอนุญาตนี้ถูกอนุมัติทุกปี จากนโยบาย ครม. อีกทั้งได้รับทราบข้อมูลของกรมจัดหางานว่า มีหลักฐานการส่งทะเบียนแรงงานเถื่อนจริง แต่จนถึงปัจจุบันยังหาผู้กระทำผิดมาลงโทษไม่ได้ จึงขอให้นายกรัฐมนตรี ปรับปรุงระเบียบให้รัดกุม และหากจำเป็น ตนอาจจะไปยื่นศาลปกครองเพื่อให้ระงับการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวในปี 2567 ไว้ก่อน จนกว่าจะมีแนวทางนโยบายที่ชัดเจนในการปกป้องภัยความมั่นคงของประเทศและการค้ามนุษย์แรงงานต่างด้าวในประเทศไทย เพื่อให้ประเทศมีแรงงานต่างด้าวที่มีคุณภาพและมีการขึ้นทะเบียนที่ครอบคลุมทั้งหมด อย่างมีหลักเกณฑ์ตามหลักสากล

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ