นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็น 1 ใน 14 จำเลยคดีโศกนาฏกรรมตากใบ หลังปรากฏตัวมาทำงานเมื่อวันที่ 28 ต.ค.67 หลังจากคดีหมดอายุความ เมื่อวันที่ 25 ต.ค.67 และทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ตนได้หารือกับปลัดกระทรวงมหาดไทยและให้กลับมารายงานความคืบหน้า ในเบื้องต้นทราบว่า นายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน ได้เขียนใบลาราชการ ช่วงวันที่ 16 - 18 ต.ค.67 แต่ภายหลังได้รับหมายจากตำรวจมาดำเนินคดีในวันที่ 15 ต.ค.67 นายวิษณุ ก็ได้ยกเลิกอนุมัติการลา และทางอำเภอได้เรียกให้มารายงานตัวในวันที่ 17 ต.ค.67 แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้มารายงานตัว ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดจึงอนุมัติให้ลา ดังนั้น จึงต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า ในเมื่อในอำเภอเรียกตัวแล้วเหตุใดจึงไม่มารายงานตัว อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ตอบข้อถามถึงกระแสข่าวให้ย้ายนายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน ไปประจำการที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ไว้ก่อนนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่อยากให้มองไปที่ความสะใจ แต่ต้องดูตามเหตุผล รวมทั้งเรื่องจริยธรรมด้วย โดยเฉพาะการไม่มารายงานตัวต่อศาลหลังจากมีหมายเรียก เพราะคนทั่วไปมองว่าผู้ที่หลบหนีหมายจับหรือไม่มารายงานตัวต่อศาลนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น ตนขอย้ำว่า แม้ว่าคดีตากใบหมดอายุความแล้ว ผู้ที่เคยตกเป็นจำเลยก็ไม่ได้ใช้ชีวิตตามปกติ เพราะสังคมจะตั้งคำถามไปตลอดอย่างแน่นอน
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
