ประธานรัฐสภา และคณะ  เดินทางเยือนกรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการ

          เมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.40 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 18.40 น. ตามเวลาในประเทศไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ สาธารณรัฐฮังการี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และคณะเดินทางถึง สาธารณรัฐฮังการี ในฐานะแขกของรัฐสภาฮังการี ในการนี้ นายอิสวาน ซิมิโก ประธานกลุ่มมิตรภาพฮังการี - ไทย นางสาวบีทริกซ์ เคซ รองผู้อำนวยการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรัฐสภาฮังการี และนายพรหเมศ (พระ-หะ-เมด) พหลพลพยุหเสนา เอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ร่วมให้การต้อนรับ
          นายอิสวาน ซิมิโก ประธานกลุ่มมิตรภาพฮังการี - ไทย ได้กล่าวต้อนรับ คณะของประธานรัฐสภา พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูล ด้านรัฐสภาของฮังการีกับรัฐสภาไทย พร้อมระบุว่า รัฐสภาไทย และรัฐสภาฮังการีมีความร่วมมือกันหลายด้าน โดยเฉพาะความร่วมมือในระดับสำนักงานเลขาธิการ ซึ่งปัจจุบันมีการประชุมออนไลน์กันอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงระบบรัฐสภาของฮังการี พร้อม เปิดเผยว่า สภาฮังการี จะมีการเลือกตั้งใหญ่ ในช่วงเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2569 ขณะเดียวกัน ประธานกลุ่มมิตรภาพฮังการี - ไทย ยังแนะนำให้ ประธานรัฐสภา  พร้อมคณะ รู้จักกับนางสาวซิลเวีย ซอโลกี เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทยซึ่งจะเดินทางไปประจำที่ประเทศไทยครั้งแรก ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
          ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวขอบคุณประธานกลุ่มมิตรภาพ ฮังการี - ไทยและคณะ ที่เดินทางมาให้การต้อนรับ พร้อมเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและรัฐสภาฮังการี จะมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
          จากนั้น เวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบูดาเปสต์  หรือ 24.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า และคณะ เข้าร่วมรับประทานอาหารค่ำ ที่นายพรหเมศ พหลพลพยุหเสนา เอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์  เป็นเจ้าภาพเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานรัฐสภาและคณะ
          ในโอกาสนี้ ประธานรัฐสภา พร้อมด้วยคณะ ได้ร่วมถวายความเคารพ และถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
          หลังจากนั้นนายพรหเมศ ได้บรรยายสรุปภาพรวมเกี่ยวกับประเทศฮังการีให้แก่คณะได้รับทราบ โดยระบุว่า อาคารทำการของสถานทูตไทย ประจำกรุงบูดาเปสต์แห่งใหม่เปิดทำการได้เพียง 3 เดือน อาคารแห่งนี้ ใช้เวลาปรับปรุงในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนกรกฎาคม โดยทีมช่างจากประเทศไทยและช่างในพื้นที่ ตัวอาคารมีความสง่างามมากกว่าอาคารแห่งเดิม ที่ทำการอาคารแห่งใหม่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับสถานทูตวาติกัน ซึ่งนอกจากการทำหน้าที่ของเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบูดาเปสต์แล้ว นางวนิดา พหลพลพยุหเสนา ภริยาท่านทูตได้รับเลือกเป็นประธานคู่สมรสเอกอัครราชทูตประจำกรุงบูดาเปสต์ จึงมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกกิจกรรมได้รับความสนใจจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะประธานาธิบดีสาธารณรัฐฮังการีที่เคยเดินทางมาร่วมกิจกรรม กับสถานทูตไทยประจำกรุงบูดาเปสต์ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันสถานทูตไทย ประจำกรุงบูดาเปสต์ ยังจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยในหลายรูปแบบ เช่น การโปรโมทอาหารไทยในลักษณะซีรีย์ มีการเชิญภริยาทูตของประเทศต่าง ๆ และนักข่าว มาร่วมกิจกรรมทำอาหารไทย เพื่อให้ชาวฮังการีรู้จักอาหารไทยที่มากกว่าผัดไทย และต้มยำกุ้ง ซึ่งทุกงานที่จัดประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
          นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมมวยไทยกาล่าในโรงแรม การจัดกิจกรรมมวยไทยในโครเอเซีย มีกิจกรรมส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมคนไทย ด้วยการเชิญชวนร้านอาหารไทย และวัดไทยให้เข้าร่วมกิจกรรม โดยในปี 2569 สถานทูตฯ มีแผนจะจัดกิจกรรมเกี่ยวก้บผ้าไทย ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางในการจัดกิจกรรม ด้านข้อมูลคนไทยในฮังการีนั้น ปัจจุบันมีคนไทยที่ทำงานในฮังการีกว่า 4,500 คน มีนักเรียนไทยเข้ามาศึกษาต่อที่ฮังการี 200 คน ซึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ในฮังการีมีร้านนวดแผนไทยกว่า 400 ร้านค้า โดยตลอดทุกช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ฮังการีมีความสนใจขยายความร่วมมือในทุก ๆ ด้านกับประเทศไทย
           ขณะที่ด้านการค้าและการลงทุน มีนักลงทุนไทยเดินทางมาลงทุนที่ฮังการีเป็นจำนวนมาก ซึ่งสาธารณรัฐฮังการี มีอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี ประมาน 223 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของสาธารณรัฐฮังการีแล้ว พบว่าประชากรของฮังการีมีฐานะทางเศรษฐกิจดีกว่าประชากรไทย
           ส่วนสถานการณ์การเมืองของสาธารณรัฐฮังการี ได้เข้าสู่การเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ในช่วงเดือนเมษายน ปี 2569 ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า พรรครัฐบาลปัจจุบันจะได้รับเสียงข้างมากเป็นพรรครัฐบาลต่อไปหรือไม่
          นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตประจำกรุงบูดาเปสต์ กล่าวย้ำว่า ภูมิภาคนี้เป็นมิตรประเทศที่ดีต่อประเทศไทยในทุก ๆ ด้าน ซึ่งหลังจากนี้ กิจกรรมที่สถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงบูดาเปสต์ จะเร่งดำเนินการร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ คือ กิจกรรมอาหารไทยซีเล็ค และการบุกตลาดใหม่
           ด้านประธานรัฐสภา กล่าวขอบคุณเอกอัครราชทูตและคณะ ที่ให้การต้อนรับด้วยความอบอุ่น ซึ่งเมื่อตนได้ยินชื่อของเอกอัครราชทูตประจำกรุงบูดาเปสต์ รู้สึกชื่นชม เนื่องจากเป็นหลานของจอมพลพหลพลพระยุหเสนา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความสามารถ และมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ส่วนเรื่อง การจัดกิจกรรมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ และการบุกเบิกตลาดใหม่ ตนขอชื่นชม เพราะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศไทย
          หลังจากนั้นคณะได้เข้าร่วมรับประทานอาหารค่ำ ที่ทางเอกอัครราชทูตประจำกรุงบูดาเปสต์ เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยง โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น มีนายพงษ์ไพโรจน์ เลิศสุดวิชัย หรือน้องต้องสู้ นักศึกษาปริญญาโท ปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเซเกด (University of Szeged) สาขาการแสดงไวโอลิน (Violin Performance) มาแสดงบทเพลง  Hungarian Dance no.5 ประพันธ์โดย Johannes Brahms และ Meditation de Thaïs ประพันธ์โดย Jules Massenet ก่อนที่ประธานรัฐสภา จะลงนามในสมุดเยี่ยม และเดินทางกลับ โรงแรมที่พำนัก

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้อมูล / ภาพ