นายซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-โมร็อกโกให้การรับรอง นายอับดุรเราะฮีม เราะห์ฮาลี (H.E. Mr. Abderrahim ราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทยในโอกาสแสดงความยินดีที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - โมร็อกโก โดยมีนางสาวละออง ติยะไพรัช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมการและเลขานุการกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - โมร็อกโก ร่วมให้การรับรอง ณ ห้องรับรองพิเศษ 205
ประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - โมร็อกโก กล่าวต้อนรับและขอบคุณเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทยที่ให้เกียรติเดินทางมาพบหารือ ซึ่งการพบกันครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกเป็นการพบกันในระหว่างงานเลี้ยงละศีลอดเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 ซึ่งมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 ณ อาคารรัฐสภา ทั้งนี้ ปี พ.ศ. 2568 นี้เป็นปีครบรอบ 40 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีการแลกเปลี่ยนการเดินทางเยือนระหว่างกันในระดับรัฐสภาน้อยครั้งมาก เท่าที่ทราบ มีคณะจากรัฐสภาไทยไปเยือนโมร็อกโกเพียง 2 ครั้ง เท่านั้น คือ ในปี 2536 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร(ในขณะนั้น) และในปี 2552 เป็นคณะของกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - โมร็อกโก ซึ่งมีนายนัจมุดดีน อูมา เป็นประธานกลุ่ม ทั้งนี้ประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย - โมร็อกโกมีแผนจะนำคณะไปเยือนรัฐสภาโมร็อกโกในช่วงปลายเดือน มิ.ย. นี้
ด้านเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณและยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง พร้อมกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย-โมร็อกโก จะมีแต่ความสำเร็จในทุกด้าน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของทั้งสองประเทศที่มีต่อภูมิภาคตัวเอง และคาดหวังว่าการทูตรัฐสภาจากการกระชับความสัมพันธ์ในระดับสมาชิกรัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แนบแน่นยิ่งขึ้น
เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า หน้าที่หลักของเอกอัครราชทูตคือการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทุก ๆ ด้าน และมีความยินดีหากประธานกลุ่มมิตรภาพฯ ไทย-โมร็อกโกจะนำคณะไปเยือนโมร็อกโกในเดือนมิ.ย. นี้ โดยสถานเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทยยินดีที่จะช่วยประสานงาน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยปีละ จำนวน 15 ทุน มาตั้งแต่ปี 2537 โดยล่าสุด ได้หารือกับจุฬาราชมนตรี ในการเพิ่มจำนวนทุนการศึกษา ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น พร้อมขอการสนับสนุนจากไทยต่อปัญหาข้อพิพาทดินแดนซาฮาราตะวันตก ซึ่งโมร็อกโกอ้างสิทธิ์มาตลอดหลายทศวรรษ และโมร็อกโกได้แสดงจุดยืนสนับสนุนทางการไทยในกรณีความขัดแย้งภาคใต้เช่นเดียวกัน
กลุ่มงานความสัมพันธ์รัฐสภาทวิภาคี สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร : ข้อมูล/ภาพ