นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)สงขลา พรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลา ว่าเหตุอุทกภัยครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด โดยระลอกแรกหาดใหญ่ได้รับผลกระทบหนัก แต่พื้นที่รอบนอกยังพอรับมือได้ จนกระทั่งเกิดฝนตกหนักที่อำเภอสะเดาในคืนวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำจำนวนมากไหลทะลักลงมาสู่อำเภอหาดใหญ่ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว กระทบต่ออำเภอรอบนอกทั้ง 4 อำเภอ ได้ อำเภอนาทวี สะบ้าย้อย สะเดา และเทพา สถานการณ์ค่อนข้างวิกฤต โดยเฉพาะอำเภอนาทวี ล่าสุดพบว่า 92 หมู่บ้านถูกน้ำท่วมทั้งหมด และประชาชนจำนวนมากยังติดอยู่ในบ้านไม่สามารถออกมาได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับในพื้นที่ไม่มีเรือเจ็ตสกี หรือรถขนาดใหญ่ที่สามารถฝ่าน้ำเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้
นายณัฏฐ์ชนน กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ได้เข้ามาช่วยกันอย่างเต็มที่ รวมถึงนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ติดตามสถาณการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ด้วยพื้นที่หาดใหญ่มีทางรถไฟผ่ากลางเมือง เส้นทางลอดอุโมงค์ 2–3 จุด ถูกปิดจากน้ำท่วม และที่สะพานลอยบริเวณตลาดกิมหยง ไปยังหน้าสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ มีประชาชนนำรถขึ้นมาจอดจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถนำเรือ อาหาร และอุปกรณ์กู้ภัยผ่านเข้าไปช่วยเหลือได้ ขณะเดียวกัน ทางจังหวัดได้จัดตั้งศูนย์อพยพในอำเภอหาดใหญ่แล้ว แต่ในพื้นที่ 4 อำเภอดังกล่าว ยังประสบปัญหาใหญ่คือไม่สามารถฝ่าน้ำไปขนย้ายผู้ป่วยติดเตียง คนแก่ เด็ก และประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง เบื้องต้นประสานผู้ว่าราชการจังหวัดให้เร่งนำอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
นายณัฏฐ์ชนน ได้เสนอมาตการช่วยเหลือระยะต้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยระยะต้นต้องเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงโดยเร็ว เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าจะมีฝนตกซ้ำหรือไม่ และในระยะกลางหลังน้ำลด รัฐบาลต้องเร่งเบิกงบเยียวยาและมอบถุงยังชีพ พร้อมเสนอให้ลดขั้นตอนและเงื่อนไขที่เป็นอุปสรรคต่อการรับเงินเยียวยาของประชาขน และระยะยาว รัฐบาลต้องวางแผนการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันการเกิดน้ำท่วมซ้ำ อย่างไรก็ตาม แม้บางพื้นที่ อย่างอำเภอนาทวี จะมีการเตรียมอพยพล่วงหน้า แต่อำเภอนาทวีไม่เคยเกิดน้ำท่วมหนักมาก่อน ครั้งนี้จึงถือเป็นน้ำท่วมหนักสุดในประวัติศาสตร์ ทั้งนี้ คาดว่าหากฝนไม่ตกเพิ่ม ระดับน้ำจะเริ่มลดลง พร้อมฝากถึงประชาชนเตรียมเฝ้าระวังปัญหาอุทกภัย ซึ่งถือว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ต้องระวัง เนื่องจากหากเกิดเหตุขึ้นจะสร้างความเสียหายทั้งชีวิต และทรัพย์สิน
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
