นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี พาดพิงและตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรียังสามารถใช้อำนาจยุบสภาได้แม้มีการยื่นญัตติซักฟอกแล้ว ว่า นายบวรศักดิ์ สามารถตีความตามความเข้าใจในฐานะนักกฎหมายได้ แต่สภาฯ ต้องตีความตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนได้มอบหมายให้ สำนักกฎหมาย สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประชุมและหาข้อมติในประเด็นนี้ ซึ่งข้อมติของฝ่ายกฎหมายสภาฯ สรุปตรงกันว่า การยุบสภาจะกระทำได้โดยตลอดในฐานะที่เป็นรัฐบาล แต่จะกระทำไม่ได้เมื่อฝ่ายค้านจำนวน 1 ใน 5 ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 วรรคหนึ่งแล้ว ซึ่งเป็นหลักการที่ประธานสภาฯ ทุกสมัยเคยใช้ พร้อมย้ำว่า ข้อโต้แย้งที่ว่าต้องรอให้ประธานสภาฯ บรรจุญัตติก่อนถึงจะยุบสภาไม่ได้นั้น ถือเป็นเพียง กระบวนการทางธุรการ ตามมาตรา 151 วรรคสอง อาทิ การตรวจสอบรายชื่อให้ครบ 1 ใน 5 ภายใน 7 วัน แต่รัฐธรรมนูญ ปี 2560 เขียนไว้อย่างชัดเจนในหลักการว่า เมื่อมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว รัฐบาลไม่สามารถยุบสภาได้ ตนจึงยึดตามรัฐธรรมนูญและมติของฝ่ายกฎหมายสภาฯ
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเพิ่มเติมว่า แต่เดิมตามรัฐธรรมนูญในอดีต หากฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลสามารถยื่นยุบสภาได้ทันที อาทิ ประกาศยุบสภาในช่วงเย็นวันก่อนการอภิปราย หรือแม้แต่ก่อนการอภิปรายจะเริ่ม แต่สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ปี 2560 การที่รัฐบาลจะกลับมาใช้อำนาจยุบสภาได้อีกครั้งนั้น มีเงื่อนไขเดียว คือ ฝ่ายค้านต้องขอถอนญัตติและต้องถอนครบทุกรายชื่อ จึงจะสามารถยุบสภาได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่าเมื่อมีการตีความตามหลักกฎหมายของสภาฯ แล้ว ถือว่าได้ข้อยุติในส่วนของสภาฯ และหากมีการลงมติไว้วางใจแล้วรัฐบาลได้คะแนนไม่ถึงเกณฑ์ รัฐบาลไม่สามารถยุบสภาได้ แต่ถ้าหากคะแนนผ่าน รัฐบาลสามารถทำงานต่อ หรือจะยุบสภาได้เช่นกัน
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง