นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... กล่าวถึง การลงมติในเนื้อหาร่างมาตรา 256/1 ว่าด้วยองค์กรที่มีหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งไม่สามารถลงมติได้ในครั้งที่แล้วเนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ ว่า การประชุมในวันพุธที่ 12 พ.ย.นี้ ตนคาดว่าไม่มีปัญหา เนื่องจากมีการพูดคุยกันอย่างชัดเจนไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา เกี่ยวกับข้อมูลที่มีความเข้าใจไม่ตรงกันในบางมาตรา แต่ในส่วนของหลักการได้มีการพูดคุยกันมาหลายวันแล้ว และมีความเข้าใจร่วมกันได้ 100% ส่วนรายละเอียดในบางมาตราที่บางคนยังกังวลอยู่ว่า หากโหวตไปอาจผูกมัดไปยังมาตราอื่นจึงทำให้มีความไม่สบายใจ ตนจะพยายามผลักดันการพิจารณาให้เป็นไปตามไทม์ไลน์เดิมให้ได้ แต่ถ้าหากมีรายละเอียดที่ต้องขยายเวลาเพิ่มต้องมีการพูดคุยกันใน กมธ.และปรับเปลี่ยนตารางอีกครั้ง ทั้งนี้ ในที่ประชุมยังมีการหารือกันในเรื่องการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย ให้ตรงกับเงื่อนไขในหลายเรื่อง ซึ่งคาดว่าจะเปิดประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 ได้ ในช่วงต้นเดือนธันวาคม และจะเว้น 15 วันก่อนจะพิจารณาวาระ 3 ซึ่งคาดว่าจะอยู่ช่วงวันที่ 20 ธ.ค. โดยเป็นไทม์ไลน์คร่าวๆ ที่หารือกันใน กมธ. ส่วนหากไม่เปิดสมัยวิสามัญ อาจต้องใช้เวลาในกระบวนการงานธุรการของสภา เพราะต้องใช้เวลาในการบรรจุและวาระ 3 อาจจะต้องขยับไปถึง ม.ค. ปี 69
ต่อข้อถามว่า กมธ.ได้มีการประเมิน หรือไม่หากมีการยุบสภาก่อนจะพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ นายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า ไม่น่าจะยุบสภาก่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จ เพราะทางพรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมในการแก้ไขครั้งนี้ เป็นภารกิจที่ประชาชนมอบหมายให้อยู่แล้ว และเป็นต้นทุนของทุกพรรคการเมืองที่เป็นความคาดหวังของประชาชน ถ้าเกิดการยุบสภาขึ้นน่าจะส่งผลกระทบทางการเมืองต่อพรรคการเมืองที่ทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง
