คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การสาธารณสุข วุฒิสภา นำโดย นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมด้วยนายแพทย์วีระพันธ์ สุวรรณามัย รองประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เข้าพบและหารือกับ ดร.เจเรมี ฟาร์ราร์ (Dr. Jeremy Farrar) ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการดูแลสุขภาพ (PPC) องค์การอนามัยโลก และคณะผู้บริหาร ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก(WHO) กรุงเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและแนวทางความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศไทยกับองค์การอนามัยโลก หวังเป็นข้อมูลสู่แนวทางพัฒนาระบบสุขภาพของไทยให้สามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
โอกาสนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้สะท้อนประเด็นสำคัญที่ประเทศไทยให้ความสำคัญ จำนวน 7 ประเด็น ได้แก่ 1. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและผลกระทบต่อสุขภาพ 2. การแพร่ระบาดของโรคติดต่ออุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ (Pandemic) 3. สุขภาพจิตและภาวะเครียดในสังคม 4. โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) 5. ความยั่งยืนทางการคลังของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (UHC) 6. การสร้างสมดุลระหว่างการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค (Balance between Prevention and Health Promotion) และ 7. การเสริมศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการแพทย์ชั้นนำของโลก นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ยืนยันจุดยืนของประเทศไทยในการคงมาตรการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด เพื่อคุ้มครองสุขภาพของเด็กและเยาวชน โดยองค์การอนามัยโลกได้แสดงวิสัยทัศน์ชัดเจนในการปรับกระบวนทัศน์ของระบบสุขภาพโลกจาก การรักษาเมื่อเจ็บป่วย สู่การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค พร้อมเสนอแนวทางความร่วมมือกับประเทศไทยใน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่ การเตรียมความพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต การส่งเสริมสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน และ การสร้างระบบการคลังสุขภาพที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมกันนี้ องค์การอนามัยโลกได้ชื่นชมประเทศไทยในฐานะประเทศต้นแบบด้านการส่งเสริมและป้องกันโรค โดยเฉพาะนโยบายภาษีเพื่อสุขภาพ เช่น ภาษียาสูบ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ตลอดจนการจัดตั้งกองทุนสุขภาพเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ WHO ได้เสนอให้ประเทศไทยสานต่อบทบาทผู้นำในเวทีนานาชาติ โดยเฉพาะในการผลักดันข้อตกลงโรคระบาดใหญ่ (Pandemic Accord) และการปฏิรูประบบสุขภาพโลกให้มีเอกภาพและยั่งยืน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่า แนวทางความร่วมมือและข้อเสนอขององค์การอนามัยโลกดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างบทบาทของวุฒิสภาในการกำหนดทิศทางนโยบาย กฎหมาย และการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ระบบสุขภาพเชิงป้องกันที่มีความเข้มแข็ง เป็นธรรม และยั่งยืน โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ สุขภาพดีสำหรับทุกคน บนโลกที่ยั่งยืน
สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ