พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ประธานกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.) นิรโทษกรรมแก่ราษฎรซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ รับการยื่นหนังสือร้องเรียนจากกลุ่มเครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐ และได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐ ด้านป่าไม้และที่ดิน ร่วมกับขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) โดยหนังสือร้องเรียนของเครือข่ายภาคประชาชน ยืนยันว่า การดำเนินการตามนโยบายด้านการจัดการด้านที่ดินและป่าไม้ของรัฐที่ผ่านมา มีคนจน ผู้ยากไร้ กลุ่มชาติพันธุ์ คนชายขอบ ได้รับความเสียหายและผลกระทบเป็นจำนวนมาก ถูกแนวเขตที่ดินของรัฐทับที่ทำกิน ทั้ง ๆ ที่อยู่มาก่อนการประกาศเขตป่าของรัฐ ทำให้ผู้บุกเบิกกลายเป็นผู้บุกรุกในที่ดินของตัวเอง ขณะที่การประกาศเขตป่าไม้และที่ดินในหลายพื้นที่ พบว่ามีนายทุน หรือมีอิทธิพล และคนร่ำรวย ซึ่งเป็นแค่คนส่วนน้อยได้ยึดครองที่ดินจำนวนมาก ขณะที่คนจนผู้ยากไร้จำนวนมากกลับไม่มีที่ดินที่ทำกิน แม้อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐ แต่ไม่มีมั่นคงถูกคุกคามด้วยการดำเนินคดี โดยเฉพาะหลังเหตุการณ์รัฐประหารปี 2557 มีคดีที่เกิดจากนโยบายทวงคืนผืนป่ากว่า 48,000 คดี
เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าฯ ยังยืนยันว่าการดำเนินการตามนโยบายทวงคืนผืนป่า คือ รูปธรรมความล้มเหลวในการจัดการทรัพยากรป่าไม้แบบรวมศูนย์ผูกขาดของรัฐที่ไม่อาจจัดการกับกลุ่มนายทุนบุกรุกผืนป่าได้ แต่รัฐกลับมาดำเนินคดีกับคนจนผู้ยากไร้แทน ประชาชนต้องกลายเหยื่อจากนโยบายรัฐที่ผิดพลาด จึงขอสนับสนุนและให้เร่งผลักดันร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อคืนสิทธิ และความเป็นธรรมทั้งปวงให้กับประชาชนผู้เสียหายและได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและป่าไม้ ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะก่อให้เกิดความสันติสุขภายใต้สิทธิมนุษยชนสากล
พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า กมธ. มีการพิจารณาร่างกฎหมายนี้อย่างรอบด้าน รวมถึงกำหนดโทษความผิด ในกรณีที่รัฐรังแกประชาชน หรือประกาศเขตป่า อุทยานที่ไปทับที่ของประชาชนที่อยู่มาก่อน ซึ่งพบว่ามีการศึกษา และมีชุมชนจำนวนมาก ถูกประกาศทับพื้นที่ เมื่อรัฐดำเนินการแล้ว ไม่มีการแก้ไข ทำให้คนกลุ่มนี้ จากเจ้าของ กลายมาเป็นผู้อยู่อาศัย และหวังว่าจะให้ร่างกฎหมายแล้วเสร็จปลายเดือนตุลาคม นี้ อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายนี้ต้องมีการทำความเข้าใจกับประชาชน ตนต้องการสื่อสาร และต้องการให้ผู้ที่รู้สึกสุดโต่ง เข้ามารับฟังคณะกรรมาธิการ ตนหวังจะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ และเขียนนโยบายให้มีป่า 40% ของพื้นที่ในประเทศ โดยเชื่อว่าหากนโยบายเหล่านี้เสร็จสิ้น ประชาชนจะปลูกป่า และรัฐต้องดูแลตัวเอง ย้ำว่า วันนี้รัฐต้องทำความเข้าใจว่าคนจะอยู่กับป่าอย่างไร
อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง