22 ก.ย.68 – สว.ภิญญาพัชญ์ อภิปรายหนุนร่าง พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา แนะ 4 ข้อเสนอเป็นแนวทางทางปฏิบัติให้เกิดผลชัดเจน ย้ำ การเยียวยาผู้เสียหายและการทดแทนแก่จำเลยผู้บริสุทธิ์คือความรับผิดชอบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน

image

        นางสาวภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรลงมติเห็นชอบแล้ว ว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะเกี่ยวข้องกับสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน และยังเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จะเห็นได้จากในสังคมไทยที่มีทั้งคนที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมและบุคคลที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งทั้งสองกลุ่มต่างประสบความทุกข์ทรมาน สูญเสียทั้งร่างกาย จิตใจ และโอกาสในชีวิต กฎหมายฉบับนี้จึงไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นหลักประกันร่วมกันของคนไทยทุกคนว่าหากวันใดวันหนึ่งต้องเผชิญกับความอยุติธรรม รัฐจะไม่ทอดทิ้งให้ต่อสู้เพียงลำพัง โดยตนสังเกตเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติว่าแม้ในปัจจุบันประเทศไทยจะมีกฎหมายรองรับการเยียวยาผู้เสียหายและจำเลยอยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติกลับพบปัญหาจำนวนมาก เช่น การไม่รับรู้สิทธิของประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนมีสิทธิยื่นคำร้องขอค่าตอบแทนจากรัฐ กระบวนการยื่นคำร้องที่ซับซ้อน หลายครั้งการขอรับสิทธิจำเป็นต้องใช้เอกสารจำนวนมากและใช้เวลารอนานนับปี ค่าตอบแทนไม่เพียงพอ จำนวนเงินที่ได้รับไม่สอดคล้องกับค่าเสียหายจริง โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับการได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือการเสียชีวิต และผลกระทบต่อจำเลยที่ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม

        นางสาวภิญญาพัชญ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ความไม่เพียงพอในการเยียวยา ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้เสียหายหรือจำเลยเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อครอบครัวและสังคมโดยรวมอันเป็นผลกระทบต่อสังคมด้วย เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้รับการชดเชยเพียงพอกลายเป็นภาระของครอบครัว สูญเสียรายได้ ต่อมาอาจเกิดปัญหาสุขภาพจิต อีกทั้งความศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรมถูกบั่นทอน ซึ่งเมื่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมลดลง จะส่งผลต่อความมั่นคงของสังคมในภาพรวม และประชาชนอาจใช้วิธีการนอกระบบ โดยตนเห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายฉบับนี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง แต่การตรากฎหมายเพียงอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ หากไม่มีมาตรการเชิงนโยบายและกลไกสนับสนุนให้เกิดผลทางปฏิบัติอย่างชัดเจน ตนจึงมี 4 ข้อเสนอและแนวทางเพิ่มเติม ได้แก่ ข้อแรก ปรับเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ข้อที่สอง บูรณาการความช่วยเหลือทางกฎหมายและจิตสังคม ข้อที่สาม สร้างระบบที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ และข้อที่สี่ การเผยแพร่และสร้างความรู้แก่ประชาชน ทั้งนี้ ตนมองว่าหากร่างกฎหมายฉบับนี้ได้รับการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดผลจริง จะช่วยสร้างหลักประกันให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าหากวันใดที่ต้องเผชิญความอยุติธรรม รัฐจะยืนเคียงข้าง ไม่ทอดทิ้ง และจะช่วยเยียวยาให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสมศักดิ์ศรี ดังนั้น การเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ จึงไม่ใช่เป็นเพียงการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการยกระดับความยุติธรรรมของไทยให้มีความน่าเชื่อถือ ทั้งในสายตาของประชาชนชาวไทยและนานาประเทศ ด้วย พร้อมย้ำว่า การเยียวยาผู้เสียหายและการทดแทนแก่จำเลยผู้บริสุทธิ์ไม่ใช่ความเมตตาที่รัฐจะต้องยื่นให้ แต่คือความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์ต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อเป็นคำมั่นสัญญาว่าบนผืนแผ่นดินไทยจะไม่มีใครต้องเผชิญกับความอยุติธรรมเพียงลำพังอีกต่อไป  

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ