นายรังสิมันต์ โรม สส. พร้อมด้วยนายเอกชัย เรืองรัตน์ สว. ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมาธิการยกร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในกรอบของการประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 46 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ถึงการยกร่างรายงานคณะกรรมาธิการด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านสมัชชารัฐสภาสตรีของอาเซียน ด้านกิจการ AIPA ว่าภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยอมรับว่าไทยเองมีความกังวลว่ากัมพูชาจะมีความพยายามใช้โอกาสผลักดันวาระใดขึ้นมาซึ่งพบว่า มีความพยายามผลักดันจริงในหลายวาระตลอดการประชุม AIPA ครั้งนี้ ได้ทราบว่ามีความพยายามในการที่จะนำเสนอเรื่องราว ของกัมพูชาให้กับประเทศผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง แต่ถือว่าโชคดีที่คณะผู้แทนรัฐสภาไทยเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้วทั้ง สส. สว. ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ และยืนยันว่าประเทศไทยไม่ต้องการเป็นคู่ขัดแย้ง ซึ่งการประชุม AIPA เป็นที่น่าสังเกตว่ากัมพูชาพยายามใช้เวทีนี้ในการดิสเครดิตประเทศไทย และเชื่อว่าจะมีอีกในหลายเวที
นายรังสิมันต์ กล่าวว่าจากนี้เชื่อว่ารัฐสภาไทยจะมีการขับเคลื่อนใน 2 ระยะ และหนึ่งในวาระที่ตนต้องการผลักดัน คือ การแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ และสิทธิมนุษยชนซึ่งไม่ทราบว่าจะได้รับการตอบรับมากเพียงใด ในขณะที่ระยะยาวนั้นยอมรับว่า กรอบของ AIPA ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าจะนำไปสู่การพัฒนารัฐสภาและกฎหมายให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยจะดูว่ามีกฎหมายฉบับใดที่ยังไม่ได้มาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชนเป็นหนึ่งเรื่องที่จะต้องแก้ไข
ด้าน นายเอกชัย เรืองรัตน์ สว. เชื่อว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้รัฐสภาอาเซียนจะทำการขับเคลื่อนในทุกด้าน เช่น ด้านเศรษฐกิจที่จะผลักดันเรื่อง Green Economy และ Blue Economy รวมถึงเรื่องคาร์บอนและพลังงานที่ยั่งยืน และด้านสังคมที่จะมีการผลักดันเรื่องการจัดการการฟอกเงิน อาชญากรรมข้ามชาติ และคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ระหว่างที่ นายรังสิมันต์ โรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พบว่ามีกลุ่มจากคณะผู้แทนกัมพูชา เดินมาจากด้านหลังกว่า 10 คน และเมื่อเดินมาถึงจุดที่สัมภาษณ์ มีความพยายามส่งเสียงรบกวน และหยุดยืนรวมกลุ่มจนกระทั่ง นายรังสิมันต์ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น
อรวรรณ วงศ์จันทรมณี / ข่าว
พีรพงษ์ เจริญภักดี / ภาพ