นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคประชาชนเป็นนั่งร้านให้พรรคภูมิใจไทยจัดตั้งรัฐบาล ยืนยันว่า พรรคประชาชนไม่เคยเป็นนั่งร้านให้กับใคร และการจะตัดสินเรื่องนี้ต้องดูจากการทำหน้าที่ในสภา โดยย้ำว่าพรรคพร้อมทำงานในฐานะฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ใช้ทุกกลไกตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะการอภิปรายนโยบายของรัฐบาลที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งถือเป็นเวทีแรกที่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่อย่างจริงจัง ส่วนกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาตรา 151 ต้องประมวลสถานการณ์อีกครั้งว่ามีเหตุเพียงพอที่จะยื่นหรือไม่ ยืนยันว่าหากรัฐบาลใช้อำนาจโดยมิชอบหรือไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง MOA ฝ่ายค้านพร้อมเดินหน้าใช้กลไกดังกล่าวทันที เพราะผลการลงมติในสภาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ชัดเจนว่ารัฐบาลทำตามข้อตกลงหรือไม่ สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเป็นไปได้ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมืองอื่นจะไหลเข้าร่วมกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ต้องประเมินอยู่แล้ว เนื่องจากการรวมขั้วการเมืองบางครั้งเกี่ยวข้องกับการต่อรองตำแหน่งทางการเมือง แต่พรรคประชาชนยืนยันพร้อมยืนหยัดทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่
นายณัฐพงษ์ ชี้ด้วยว่า แม้จะมีข้อกังวลเรื่องการแทรกแซงคดีต่างๆ เช่น คดีฮั้ว สว. คดีเขากระโดง แต่ฝ่ายค้านจะใช้เวทีสภาเป็นพื้นที่หลักในการตรวจสอบ หากไม่สามารถยับยั้งการใช้อำนาจที่ไม่เหมาะสมได้ในเวทีอภิปราย ฝ่ายค้านก็พร้อมยกระดับไปสู่การอภิปรายลงมติไม่ไว้วางใจ อย่างไรก็ตาม มองว่าภาพรวมการทำงานตามข้อตกลง MOA ยังคงมีข้อดีหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เช่น การผลักดันร่างกฎหมายสำคัญที่ผ่านความเห็นชอบในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนว่าการตัดสินใจของพรรคประชาชนเป็นไปเพื่อผลักดันวาระที่ก้าวหน้า มุ่งสู่การยุบสภาและเปิดทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้การเดินหน้าตามกรอบข้อตกลง MOA จะสำเร็จมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะการร่วมมือกันระหว่างพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย หากฝ่ายค้านสามารถยืนหยัดอย่างแข็งแรง รัฐบาลเสียงข้างน้อยย่อมต้องปฏิบัติตามข้อตกลงที่ได้มีการกำหนดไว้
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง