นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงข้อห่วงใยสถานการณ์อุทกภัยในช่วงปลายปี 2568 อาจซ้ำรอยเหตุการณ์มหาอุทกภัย ปี 2554 ว่า จากการติดตามข่าวสาร และข้อมูลการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน ได้พบสัญญาณเตือนภัยที่อาจนำไปสู่วิกฤตน้ำท่วม ประกอบด้วย ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่ง สส. หลายคนได้สะท้อนปัญหานี้ผ่านที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สอดคล้องกับสื่อมวลชน ได้นำเสนอสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมเกิดจาก 4 ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ฝนตกอย่างหนัก มวลน้ำจากภาคเหนือ เขื่อนใหญ่ระบายน้ำ และน้ำทะเลหนุนสูง ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนและปริมาณฝนสะสม ในปัจจุบัน มีความแตกต่างจากปี 2554 เพียง 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ที่สำคัญ คือ พายุและร่องมรสุม ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อเนื่องไปจนถึงปลายเดือน ก.ย. ถึง ต.ค. นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณน้ำจากแม่น้ำสายหลักอย่าง แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำท่าจีนได้ล้นตลิ่งแล้ว ประกอบกับดินไม่สามารถอุ้มน้ำได้อีกต่อไป ทำให้เกิดน้ำท่วมได้ในทันที
นายณัฐวุฒิ กล่าวถึงมาตรการรับมือของหน่วยงานท้องถิ่น ว่า ปัจจุบันผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภออู่ทอง อำเภอสองพี่น้อง และอำเภอบางปลาม้า พร้อมทั้งขอเครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่องจากกรมชลประทาน นอกจากนี้ ผู้นำท้องถิ่น เช่น นายก อบจ., สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และนายกเทศมนตรี ได้ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า ตนมีข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลให้จัดตั้งวอร์รูม (War Room) เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์น้ำอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งเร่งเตรียมการอพยพกลุ่มเปราะบาง การป้องกันโรงงานอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจไม่ให้ได้รับความเสียหาย การช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว การชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สินและผลผลิตทางการเกษตรอย่างคุ้มค่า และการจ่ายเงินชดเชยให้กับประชาชนในพื้นที่ทุ่งรับน้ำ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าจะทำงานในระยะเวลา 4 เดือน ตนขอฝากให้ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมให้สำเร็จลุล่วงด้วย
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง