28 ส.ค. 68 - สส.เชียงใหม่ เสนอรัฐเร่งพัฒนาระบบเตือนภัยพิบัติให้ครอบคลุม เปิดทางท้องถิ่น-ชุมชนร่วมบริหารจัดการ เพิ่มประสิทธิภาพแจ้งเตือนภัย พร้อมเรียกร้องปรับปรุงค่าตอบแทนอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ให้เหมาะสมกับภารกิจ

image

            นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อ นายภูมิธรรม เวชชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงแนวทางการบริหารจัดการภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเสนอให้พิจารณาการพัฒนาระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และเข้าถึงประชาชนได้อย่างทันท่วงที เพราะจะเห็นได้ว่าแม้ปัจจุบันจะมีระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติผ่าน Cell Broadcast แต่ยังขาดระบบแจ้งเตือนในรูปแบบ Emergency alert หรือ Extreme alert ที่สามารถกระตุ้นให้ประชาชนเตรียมการอพยพได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐควรเร่งดำเนินการเพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชน นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติ(SOP) ด้านการแจ้งเตือนภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยเน้นให้ท้องถิ่นมีบทบาทในกระบวนการแจ้งเตือนภัยมากขึ้น ซึ่งจะทำให้การแจ้งเตือนเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสนอให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ เช่น กระบวยวัดปริมาณน้ำฝน เพื่อติดตั้งที่ต้นน้ำ โดยชุมชนจะสามารถติดตามระดับน้ำและแจ้งเตือนภายในพื้นที่ได้เอง ลดการพึ่งพาส่วนกลางเพียงฝ่ายเดียว พร้อมยังได้สอบถามถึงแนวทางการปรับปรุงค่าตอบแทนสำหรับผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์ภัยพิบัติ อาทิ เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ซึ่งต้องเผชิญกับภารกิจที่เสี่ยงอันตรายในการเผชิญสถานการณ์ภัยธรรมชาติ แต่ได้รับค่าตอบแทนไม่สอดคล้องกับความรับผิดชอบ

            ด้าน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ตอบกระทู้แทน ชี้แจงว่า รัฐบาลมีเจตนารมณ์ในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติอย่างเต็มที่ โดยได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น เช่น การแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าผ่านระบบ Cell Broadcast การเคลื่อนย้ายประชาชนกลุ่มเปราะบางออกจากพื้นที่เสี่ยง และการประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่น สำหรับประเด็นค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่และอาสาสมัคร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า รัฐบาลมีระเบียบรองรับในการดูแลค่าตอบแทนแก่ผู้ปฏิบัติงานที่อยู่ในพื้นที่ที่มีการประกาศเขตภัยพิบัติ โดยท้องถิ่นสามารถอนุมัติงบประมาณได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการอนุมัติส่วนกลาง พร้อมย้ำว่าแม้อาสาสมัครจะปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ แต่รัฐบาลยังคงตระหนักถึงคุณค่าของบุคลากรกลุ่มนี้ และจะพิจารณาการปรับปรุงที่เหมาะสมต่อไป

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ