โดย
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ ณ นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตสองประเทศ โดยกล่าวถึงกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรมีแนวคิดที่จะผลักดันการพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมว่า ขณะนี้ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการพิจารณาปรับปรุงก่อนเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีการหารือกับวิปทุกฝ่ายก่อนที่จะนำเข้าสู่วาระพิจารณาของสภา ส่วนเนื้อหาของการนิรโทษกรรมยังมีความเห็นต่างของผู้พิจารณา คาดว่าจะต้องมีการปรับปรุง และรัฐบาลจะต้องรับฟังเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับตรงกัน พร้อมชี้ว่าเรื่องร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเป็นร่างกฎหมายที่เป็นประโยชน์ ซึ่งหากผลักดันได้สำเร็จจะสามารถสร้างความปรองดองให้กับประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่หากกฎหมายไม่สำเร็จ อาจจะมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อน จากความเห็นทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน หากทำให้คนเราสามารถจะดำรงชีวิตอยู่ได้ภายใต้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้ได้ จะช่วยให้การเมืองเดินไปได้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ขอให้ความเห็นต่อการชุมนุมทางการเมืองในวันนี้ (28 มิ.ย. 68) โดยระบุว่าตนไม่ต้องการที่จะให้ความเห็นหรือคาดการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการเมืองเป็นเรื่องธรรมดาที่มีปัญหา พร้อมกับหยิบยกการเมืองในประเทศจีนที่พัฒนาได้ เพราะการเมืองของจีนค่อนข้างเป็นระบบ แต่ถ้าหากการเมืองไม่นิ่งย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจตามมา การลงทุนมีปัญหา เพราะคนขาดความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปที่จะพิจารณามาลงทุน นักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวประเทศไทย หากประเทศไทยยังเป็นปัญหา เช่น การประท้วงอะไรต่าง ๆ รัฐบาลมีความไม่มั่นคง นักท่องเที่ยวจะเลือกไปประเทศอื่นได้ ทำให้เสียโอกาสระดับหนึ่ง แต่ต้องเข้าใจว่าประชาธิปไตยเป็นเช่นนี้
อรวรรณ วงจันทร์มณี /ข่าว
วสันต์ เรือนเงิน /ภาพ
