สส.รังสิมันต์ ปชน. แนะรัฐบาลยกระดับการคัดกรองจุดท่าข้ามชายแดน พร้อมเร่งสกัดการขายเครื่องปั่นไฟ หลังตัดไฟเมียนมา

          นายรังสิมันต์ โรม ประธานกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าอำนาจสั่งตัดไฟชายแดนเมียนมา เป็นของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลย โดยระบุว่า ตนยืนยันมาตลอดว่าเป็นอำนาจของ กฟภ. ไม่ควรไปถึงระดับนโยบายด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะพิจารณาจากสัญญาหรือระเบียบ แต่เมื่อ กฟภ. นิ่งเฉย ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงไม่จบ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับนายภูมิธรรม ตอบคำถามไปคนละทาง ซึ่งดูเหมือนว่าจะตัดไฟแค่ชเวโก๊กโก่และเคเคพาร์ก แต่ทราบว่า 2 จุดนี้ตัดไฟไปนานแล้ว ซึ่งเห็นว่าควรจะตัดไฟในพื้นที่ 3 จุด ทั้งท่าขี้เหล็กที่มีปัญหายาเสพติด เมียวดีมีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่นเดียวกับพญาตองซู ต้องตัดไฟทั้งหมด หากละเว้นจุดใดจุดหนึ่ง ปัญหาก็ไม่จบ รวมถึงรัฐบาลต้องเร่งสกัดกั้นการขายเครื่องปั่นไฟ หากมีการตัดไฟเกิดขึ้น
          ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น นายรังสิมัตน์ กล่าวว่า ควรยกระดับท่าข้ามที่เป็นจุดจอดเรือข้ามแม่น้ำ โดยจุดประสงค์ คือ เพื่อการค้าขายสินค้าเท่านั้น แต่ทางปฏิบัติ มีประชาชนข้ามไปมา มีสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งไม่มีการตั้งด่านตรวจคัดกรอง โดยท่าข้ามเหล่านี้อยู่ในพื้นที่ที่เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งหากจะเปิดท่าข้าม ต้องมีมาตรฐานไม่น้อยกว่าจุดผ่านแดนถาวร ส่วนเรื่องวีซ่าที่นักท่องเที่ยวขอครั้งเดียวแล้วสามารถไปที่ใดก็ได้ ไม่ต้องขออนุญาตซ้ำนั้น เห็นว่ารัฐบาลต้องทบทวน โดยเฉพาะการเข้าไปในพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน ควรจะต้องให้มีกลไกเพิ่มเติม เป็นการป้องกันกลุ่มที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางข้ามไปประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนกลไกภายในประเทศ อย่างการปราบปรามบัญชีม้า เห็นว่ารัฐบาลดำเนินการอย่างจริงจัง แต่เข้าใจว่าต้องรอร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ พ.ร.ก.ไซเบอร์ ที่เพิ่มโทษธนาคารและค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบ คืนเงินผู้เสียหาย นอกจากนี้ รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับทางชายแดนกัมพูชาด้วย ซึ่งต้องตรวจสอบว่ามีทรัพยากรใดของประเทศไทยที่ส่งไปยังกัมพูชาเพื่อกระทำสิ่งผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเบื้องต้นทราบว่ามี
           นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า เรื่องการตัดไฟไม่ต้องไปถึงนายภูมิธรรม แค่นายอนุทินก็เพียงพอแล้ว โดยหากการส่งไฟไปยังเมียนมา ทำให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติ นายกรัฐมนตรีควรต้องให้นายอนุทินรับผิดชอบ
            นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ ยังเปิดเผยอีกว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้มีมติเชิญนายอนุทินและนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาให้ข้อมูล และแม้ สมช. จะไม่ได้มีอำนาจตัดไฟโดยตรง แต่เมื่อเลขาธิการ สมช. ออกมาแถลงเรื่องนี้ ซึ่งตนเสียดายที่การแถลงไม่ระบุว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้ไฟของประเทศไทยนั้นเป็นปัญหาความมั่นคง โดยตนขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาความมั่นคง
           ทั้งนี้ นายรังสิมันต์ ยังฝากถึงพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้มงวดเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐ ที่อาจเข้าข่ายยุ่งเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย ทั้งการพนันออนไลน์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินร่วมด้วย

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง