16 ธ.ค. 67 – สว.นรเศรษฐ์ ตั้งกระทู้ถามกระทรวงกลาโหมถึงมาตรการป้องกันการเสียชีวิตของทหารเกณฑ์ในค่ายทหาร ด้าน รมช.กลาโหม ยืนยัน กำหนดมาตรการเข้มป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ เน้นย้ำกำลังพลทราบถึงผลการลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย อาจถูกปลดจากราชการและถูกดําเนินคดีอาญา พร้อมคัดกรองครูฝึกที่มีศักยภาพ มีวุฒิภาวะ และคุณธรรมจริยธรรม

image

               นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมถึงการเสียชีวิตของทหารเกณฑ์ในค่ายทหาร เนื่องจากเหตุการณ์การเสียชีวิตของทหารในค่ายทหารเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ถึงเดือนกรกฎาคม 2567 มีทหารเกณฑ์เสียชีวิต (เฉพาะที่เป็นข่าว) ถึง 5 ราย โดยรายล่าสุดคือ พลทหาร ศิริวัฒน์ ใจดี สังกัดกรมสารวัตรทหารเรือ จึงขอถามว่ากระทรวงกลาโหมมีแผนหรือแนวทางในการดําเนินการต่อเหตุการณ์การเสียชีวิตของพลทหาร ศิริวัฒน์ อย่างไร และได้ดําเนินการไปแล้วอย่างไร และกระทรวงกลาโหมมีมาตรการในการปฏิบัติอย่างไรไม่ให้มีทหารเกณฑ์เสียชีวิตจากการฝึกในระหว่างการรับราชการทหาร รวมทั้งมีแนวทางในการเยียวยาแก่ครอบครัวทหารเกณฑ์ผู้เสียชีวิตในระหว่างการรับราชการทหาร อย่างไร รวมทั้งจะใช้งบประมาณจากส่วนใดในการเยียวยา

               ด้าน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ชี้แจงว่า กระทรวงกลาโหมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวพลทหารผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำจะกวดขันผู้เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ซ้ำอีกในอนาคต โดยได้ดำเนินการลงโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว อาทิ ลงโทษกัก ผบ.ร้อยฝึก 5 วัน งดบำเหน็จประจำปี ฐานขาดการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา และลงโทษกักนายทหารเวรประจำกองร้อยฝึก 7 วัน งดบำเหน็จประจำปี ฐานไม่ควบคุมกำกับดูแลครูเวร และลงทัณฑ์ขังครูเวร 15 วัน งดบำเหน็จประจำปี หลังให้การยอมรับว่า ใช้ความรุนแรงจริงโดยเตะไปที่ขาพลทหาร 2 ครั้ง ส่วนการเยียวยาได้จ่ายเงินชดเชยและให้การช่วยเหลือแก่ทายาทโดยชอบธรรม เป็นเงินสด 1 แสนบาท โดยใช้เงินข้าราชการในหน่วยได้ร่วมกันบริจาคเป็นเงินชดเชยให้แก่ผู้เสียหาย ทั้งนี้ ปัจจุบันญาติได้ฟ้องเอาผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (พ.ร.บ.อุ้มหาย) ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบปากคำ

               สำหรับมาตรการป้องกันไม่ให้มีทหารเกณฑ์เสียชีวิตจากการฝึก ยืนยันว่า ในระดับนโยบายมีการกำกับและกวดขันอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การควบคุมและป้องกันการลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและธรรมเนียมทหารอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาเน้นย้ำและเผยแพร่มาตรการและควบคุมการลงทัณต์ และดําเนินการอบรมชี้แจงทําความเข้าใจให้กําลังพลทุกนายได้ทราบถึงผลของการลงทัณฑ์หรือลงโทษที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือแบบธรรมเนียมทหาร อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรการอย่างร้ายแรง เช่น การทําร้ายร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรง เป็นต้น ซึ่งจะต้องถูกพักราชการ งดรับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ต่างๆ และถูกดําเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง รวมถึงดําเนินคดีอาญาตามฐานความผิดที่ได้กระทํา ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกปลดออกจากราชการในที่สุด นอกจากนี้ ยังได้พิจารณาความเหมาะสมของข้าราชการกระทรวงกลาโหมที่จะมาทําหน้าที่ครูฝึก ครูปกครอง จะต้องเป็นผู้มีศักยภาพมีภาวะผู้นําทางทหาร มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมในการทําหน้าที่ และมีคุณธรรมจริยธรรมตามมาตรฐานที่กําหนด ในกรณีที่พบเห็นเหตุการณ์หรือร่วมอยู่ในเหตุการณ์ให้รายงานผู้บังคับบัญชาโดยด่วน รวมถึงอาจแจ้งบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าระงับเหตุและให้ความช่วยเหลือโดยทันที

               ทั้งนี้ หากมีพฤติกรรมฝ่าฝืนที่รุนแรงหรือเกิดผลร้ายแรงอย่างจากการกระทํานั้น ให้ดําเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงต่อผู้กระทําความผิดฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงและขัดคําสั่งผู้บังคับบัญชา พร้อมดําเนินการสั่งราชการและผู้กระทําความผิด หากผลการสอบสวนผิดวินัยร้ายแรง ให้ดําเนินการปลดออกจากราชการและถอดจากยศทหาร กรณีมีพฤติกรรมการฝ่าฝืนที่รุนแรงหรือเกิดผลร้ายอย่างรุนแรงจากการกระทํานั้น ให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรงดําเนินคดีต่อผู้กระทําความผิด

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ