นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน แถลงข่าวถึงปัญหาของแอปพลิเคชันขนส่งและบริการส่งอาหารในประเทศไทย โดยนำเสนอผ่านโมเดล "มา GRAB โอกาสกัน" ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ G (Gross Profit) คือ ค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าที่แอปพลิเคชันเก็บจากผู้ให้บริการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับสูงถึงเกือบร้อยละ 50 ส่งผลให้ไรเดอร์ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังประสบปัญหาการไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับงานเสริม ค่าน้ำมัน และการไม่ได้รับการเยียวยาที่เพียงพอในช่วงเวลาเร่งด่วนระหว่าง 16.00-18.00 น. /R (Regulation) คือ กฎระเบียบที่รัฐบาลควรดำเนินการ โดยมี 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การควบคุมแอปพลิเคชันให้เก็บค่าธรรมเนียมอย่างสมเหตุสมผล และการส่งเสริมการแข่งขันอย่างเสรีเพื่อป้องกันการผูกขาด ปัจจุบันในประเทศไทยมีบริษัทให้บริการประเภทนี้ประมาณ 10 แห่ง แต่มีเพียงบริษัทเดียวที่ครองส่วนแบ่งการตลาดไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และมีผู้ใช้งานไม่ต่ำกว่า 200,000 คน /A (Authority) คือ อำนาจในการควบรวมและอำนาจของนายทุน ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีอำนาจเพียงพอในการจัดการ หากตนได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล จะดำเนินการ 4 มาตรการ ได้แก่ การลดค่าธรรมเนียม การให้ไรเดอร์ได้รับสวัสดิการแรงงานที่เหมาะสม การป้องกันการผูกขาดตลาด และการเก็บภาษีอย่างเหมาะสม และ B (Benefit) คือ ผลประโยชน์ที่ควรตกถึงประชาชน ปัจจุบันการแก้ไขกฎหมายต่างๆ มีแนวโน้มเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนมากกว่าประชาชน
นายกันต์พงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเทศไทยมีผู้ใช้แอปพลิเคชันขนส่งหลักไม่ต่ำกว่า 150 ล้านบัญชี โดยเฉลี่ยประชาชนไทย 1 คนจะมี 2-3 บัญชี ส่วนรายได้ของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ประมาณ 30,000 ล้านบาท และในไทยประมาณ 8,000 ล้านบาท จากการวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายแสดงให้เห็นว่า หากผู้โดยสารจ่ายค่าบริการ 100 บาท ไรเดอร์จะได้รับเพียง 71 บาท เนื่องจากต้องเสียค่าธรรมเนียมร้อยละ 25 และภาษีหัก ณ ที่จ่ายร้อยละ 3 ส่วนบริษัทแอปพลิเคชันจะได้รับ 29 บาท สำหรับร้านอาหาร ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้กับแอปพลิเคชันประมาณร้อยละ 40 - 50 จึงจำเป็นต้องปรับราคาอาหารให้สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้น ขณะที่ร้านค้าได้รายได้ไม่เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ตนจึงมีข้อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณาพัฒนาแอปพลิเคชันของรัฐเพื่อสร้างการแข่งขัน โดยปัจจุบันรัฐมีการใช้งบประมาณในการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ ปีละ 10,000 ล้านบาท การพัฒนาแอปพลิเคชันขนส่งไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก หากรัฐมีแอปพลิเคชันเป็นของตนเอง เชื่อจะสามารถเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถคืนกำไรให้กับผู้ใช้บริการ ไรเดอร์ และร้านค้า เพื่อให้ผลประโยชน์กลับคืนสู่ประชาชน
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง
