นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กลุ่มสื่อสารมวลชน และในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข่าวปลอม (Fake News) จำนวนมากในสื่อสังคมออนไลน์ ว่า ตนมีข้อห่วงใยเป็นอย่างยิ่งเพราะจากการประเมินข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ ตนมองว่า มีทั้งข้อเท็จจริงและข่าวปลอม ในสัดส่วนร้อยละ 50:50 ทั้งนี้ แม้ว่า หลายคนได้แสดงออกถึงจุดยืนเรื่องความรักชาติก็เป้นสิ่งที่ควรกระทำ แต่สิ่งที่ควรคำนึง คือ การแพร่กระจายข่าวสารที่บิดเบือนข้อเท็จจริง จนนำไปสู่การเข้าใจผิดและส่งผลกระทบไปยังประชาคมระหว่างประเทศด้วย ดังนั้น แนวทางที่ดี คือ ทุกคนต้องมีสติในการเปิดรับข่าวสารในสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีการอ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่เป็นทางการหรือไม่ใช่มืออาชีพ ดังนั้น ทุกคนต้องรักชาติให้ถูกวิธี เพราะทุกคนเป็นมนุษย์ด้วยกัน ไม่ควรมีการด้อยค่า หรือดูถูกดูแคลนเชื้อชาติ เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง ทุกคนมีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียมกัน การสื่อสารต้องระวังไม่ให้เกิดข้อขัดแย้ง แต่ควรสื่อสารด้วยข้อเท็จจริง ซึ่งไม่ใช่เพียงสร้างความเข้าใจให้กับคนไทยเท่านั้น แต่เป็นการทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชาด้วย
นายชิบ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีความเปราะบางอย่างยิ่ง โดยคณะกรรมาธิการสามัญ วุฒิสภา ได้ให้ความสำคัญกับการติดตามการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยมีการรวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายมงคล สุระสัจจะประธานวุฒิสภา ได้มีดำริให้มีทีมงานเฉพาะกิจติดตามข้อมูลข่าวสารและแจ้งให้ สว. รับทราบความคืบหน้าสถานการณ์ที่เป็นข้อเท็จจริง ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ปะทะที่รุนแรง ทาง สว. ได้มีการออกแถลงการณ์ทั้ง กมธ.การทหาร กมธ.การต่างประเทศ กมธ.เศรษฐกิจ กมธ.แรงงาน โดยเป็นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันเพื่อสังเคราะห์ข้อมูลนับตั้งแต่เกิดกรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล มีการหารือเป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมทั้ง สว. ได้นำปัญหาความเดือนร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ปรึกษาหารือผ่านที่ประชุมวุฒิสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เร่งด่วน ทั้งนี้ การทำงานของ กมธ.ต่างประเทศ วุฒิสภา ก็ได้เชิญชวนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคงมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า สว. ไม่ได้เพิกเฉยเรื่องนี้ แต่เป็นการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน รวมทั้ง สว. มีการลงพื้นที่ที่มีความขัดแย้งใน 4 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ทั้งนี้ ตนคาดหวังว่ารัฐบาลจะรับฟังข้อเสนอแนะของ สว. ไปดำเนินการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
