การประชุมวุฒิสภาที่มี พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ภายหลังมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 คน ได้แก่ ศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และนายสราวุธ ทรงศิวิไล ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว เสร็จสิ้นแล้ว จึงเสนอรายงานเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อพิจารณาลงมติว่าจะให้ความเห็นชอบหรือไม่
โดยภายหลัง พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ ชี้แจงรายงานต่อที่ประชุมวุฒิสภาถึงการดำเนินการของคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งได้ระบุรายละเอียดไว้ในเอกสารรายงานในส่วนที่สามารถเปิดเผยได้แล้ว มีสมาชิกวุฒิสภาลุกขึ้นอภิปราย อาทิ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) อภิปรายว่าเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการร่วมระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ชุดที่ 26 ได้สรุปสำนวนผู้ถูกกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. จำนวน 229 ราย และในจำนวนนี้มี สว. ถึง 138 คน ซึ่งถือเป็นเกือบ 3 ใน 4 ของ สว.ทั้งหมด และขณะนี้สำนวนคดีฮั้ว สว.อยู่ในมือ กกต. ก่อนจะดำเนินการส่งฟ้องไปที่ศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป แต่วุฒิสภากลับมีการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระ จึงมองว่าเป็นเรื่องที่ขัดกันเกินไปกับเรื่องคดี สว.ที่กำลังเป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ ขณะเดียวกันยังมีการลงมติให้ความเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 2 ตำแหน่ง ในขณะที่ วุฒิสภาใช้ตำแหน่งดังกล่าวร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่านายกฯ มีพฤติกรรมที่ขัดต่อจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ สว.ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาเอง กลับไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ จึงตั้งคำถามว่าเหมาะสมหรือไม่กับการลงมติเลือกตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปตัดสินคดีที่ สว.มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นการจงใจให้กระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยวหรือไม่ และขอให้ตระหนักว่าประชาชนกำลังติดตามคดีฮั้ว สว.อย่างใกล้ชิด จึงขอพิจารณาว่าเหมาะสมแล้วหรือไม่ ดังนั้นเพื่อความสง่างาม สว.ควรยุติการลงมติใดๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกองค์กรอิสระ
ด้านพันตำรวจเอก กอบ อัจนากิตติ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่าในคดีฮั้วเลือก สว.ผู้ที่ถูกกล่าวหายังคงเป็นผู้ถูกกล่าวหา เช่นเดียวกับ พลตำรวจโท ยุทธนา ไทยภักดี ที่มองว่าขณะนี้ สว.ที่ถูกกล่าวหา 138 คน ยังไม่ได้ถูกศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น สว.จึงสามารถเดินหน้าทำงานต่อได้
ทั้งนี้ ภายหลังอภิปรายเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมวุฒิสภาได้ประชุมลับเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ผลการลงมติปรากฏว่า ศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ได้รับเสียงเห็นด้วย 39 เสียง ไม่เห็นด้วย 118 เสียง งดออกเสียง 30 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง ซึ่งผลการลงคะแนนดังกล่าว ศาสตราจารย์ ร้อยตำรวจเอก สุธรรม ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ทั้งหมด จึงถือว่าไม่ได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนนายสราวุธ ทรงศิวิไล ได้รับเสียงเห็นด้วย 143 เสียง ไม่เห็นด้วย 17 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง ทำให้ นายสราวุธ เป็นผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง