พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร ประธาน กมธ.กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา แถลงข่าวเกี่ยวกับคดีฮั้ว เลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงนี้มีการนำกฎหมายมาหาประโยชน์ทำให้เกิดปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ทำตามหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย ใช้กฎหมายในทางการเมือง โดยมีการกล่าวหาฝ่ายนิติบัญญัติ คือวุฒิสมาชิกซึ่งเป็นองค์กรที่ใช้กฎหมายแทนประชาชน ว่ากระทำการฮั้วการเลือกตั้ง หรือการได้มาซึ่ง สว.โดยมิชอบ ตนจึงขอแถลงข้อเท็จจริงว่าวุฒิสมาชิกชุดปัจจุบันซึ่งเป็นชุดที่ 13 ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว. และระเบียบข้อบังคับตามเงื่อนไขที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กำหนด และได้รับการรับรองตามกฎหมาย ปฏิบัติตามหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญและข้อบังคับในการประชุม ดังนั้นการกล่าวหาว่ามีการฮั้ว สว. เป็นการใช้ถ้อยคำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรนิติบัญญัติโดยคนกลุ่มหนึ่ง ที่ไม่เคารพกฎเกณฑ์กติกาการปกครองของบ้านเมือง พยายามสร้างให้เกิดวิกฤตขึ้นในประเทศ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่มีหน้าที่ทางกฎหมายกลับไม่ปฏิบัติตามกรอบหน้าที่ แต่กลับไปทำเรื่องที่อยู่นอกกรอบ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อหน่วยงานอื่น ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2547 มีเจตนารมณ์เพื่อให้พนักงานสอบสวนในกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นกลางให้เกิดความยุติธรรม แต่หน่วยงานดังกล่าวกลับใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในทางการเมือง
พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ ย้ำว่าการกล่าวหาว่ามีการฮั้วเลือก สว. ทำให้สังคมเข้าใจว่า สว.ไม่สุจริต เป็นการใช้กฎหมายที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร และเป็นการกระทำที่มิชอบจนมีการเรียกร้องให้สมาชิกวุฒิสภายุติปฏิบัติหน้าที่ ขณะเดียวกัน กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่ปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องที่ควรทำ เช่นการไม่ติดตามผู้ต้องหาคดีฟอกเงินมาดำเนินคดีแต่กลับปล่อยให้ลอยนวล พร้อมขอประชาชนและสื่อมวลชนวิเคราะห์ข่าวสารบ้านเมืองว่าการกระทำต่างๆที่เกิดขึ้น เกิดจากการใช้กฎหมายกระทำอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ และขอให้ทำความเข้าใจว่าระบบนิติรัฐ นิติธรรม ต้องควบคู่กับการเคารพกฎหมายบ้านเมืองด้วย
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง