14 พ.ค. 68 - กมธ.เกษตรฯ สผ. จี้กระทรวงพาณิชย์-กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งหามาตรการช่วยเกษตรกร จากภาษีทรัมป์ ห่วงเจรจาล่าช้าเกิดปัญหาใหม่ตามมา

image

          นายณรงเดช อุฬารกุล รองประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงวาระพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯ วันนี้ ว่า คณะกรรมาธิการฯ ได้ติดตามเรื่องเจรจาทางการค้า มีความกังวลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเกษตรกร ซึ่งได้เชิญนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นางนฤมลภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาชี้แจงถึงมาตรการต่าง ๆ ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ไปเจรจากับทางสหรัฐอเมริกา และทางกระทรวงเกษตรฯ มีมาตรการในการรับมือกับผลกระทบต่อเกษตรกรอย่างไร
          ส่วนท่าทีของสหรัฐฯ ต่อข้อเสนอ 5 ข้อของประเทศไทยนั้น นายณรงเดช กล่าวว่า เรื่องของการเจรจายังไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วข้อตกลงเป็นอย่างไร เนื่องจากยังไม่ได้มีการเจรจาเกิดขึ้น เป็นเพียงการนำเสนอความต้องการของประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งสิ่งที่กังวล คือ การที่สหรัฐฯ ต้องการส่งสินค้าเกษตรเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งยังไม่ทราบว่าทางการไทยจะตอบรับอย่างไร ขณะที่ข้อเสนอของคณะกรรมาธิการฯ มี 3-4 ประเด็น คือ ผลกระทบจากสินค้าที่มีทั้งสินค้าที่จะส่งไปสหรัฐฯ และทางสหรัฐฯ จะส่งมา รวมถึงสินค้าที่ประเทศอื่น ๆ เคยส่งไปสหรัฐฯ แต่ไม่สามารถส่งไปได้ ก็จะส่งเข้ามายังประเทศไทย โดยทั้งหมดเป็นความเคลื่อนไหวของสินค้าที่คณะกรรมาธิการฯ เป็นกังวลอย่างมาก ส่วนการเตรียมการรับมือสินค้าเหล่านี้ ต้องสอบถามว่ากระทรวงพาณิชย์จะมีมาตรการอย่างไร และที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ผลกระทบที่เกิดกับเกษตรกร จากผลของการเจรจามาตรการต่าง ๆ ที่ทั้งกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์จะเตรียมให้เกษตรกรอย่างไร ซึ่งวันนี้ยังไม่เห็นมีใครพูดถึง โดยเกรงว่าจะเป็นเหมือนกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (FTA) ที่ให้นำเงินกองทุนฯ ไปปรับปรุงช่วยเหลือ แต่ไม่มีความชัดเจนว่าจะช่วยอย่างไร สุดท้ายแล้วกลายเป็นเบี้ยหัวแตกไม่มีใครรับผิดชอบ ขณะเดียวกันความล่าช้าของการเจรจาที่จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ โดยสหรัฐฯ ชะลอการขึ้นภาษี 90 วัน จะครบภายในวันที่ 9 สิงหาคม นี้ ดังนั้น ปัญหาใหม่ที่กังวล คือ การเจรจาทางการค้ามีลักษณะคล้ายกองทุน FTA ที่อาจจะเข้ามาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญ ที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งไม่แน่ใจว่ากว่าการเจรจากับทางสหรัฐฯ จะจบ และกลับเข้ามาให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาได้เมื่อใด ซึ่งหากไม่ทันประเทศไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า 36% อยู่ระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นกังวลมาก อีกทั้งความไม่ชัดเจนของรัฐบาลในปัจจุบันยิ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอนในเรื่องนี้

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ