นายเซีย จำปาทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะรองเลขาธิการพรรคประชาชน สัดส่วนเครือข่ายแรงงาน พร้อมด้วย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. จังหวัดชลบุรี และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.แบบบัญชีรายชื่อ ยื่นหนังสือถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เรื่อง ข้อเสนอการดูแลเยียวยาแรงงานจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างบริเวณเขตจตุจักร พังถล่มจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 โดยมีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหาย ซึ่งเป็นแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติติดอยู่ใต้ซากตึกถล่มจำนวนมาก ว่า ผู้รับเหมาในการก่อสร้างตึกดังกล่าว คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี (ITD-CREC) ประกอบด้วยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวลลอปเมนต์ และบริษัท ไชน่า เรล เวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด มีการจ้างงานในรูปแบบเหมาช่วง (Subcontractor) อีกกว่า 20 บริษัท ส่งผลให้การจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับแรงงานเพื่อประเมินความเสียหายทำได้ไม่สมบูรณ์ เช่น รายชื่อของลูกจ้างทั้งหมดกับรายชื่อลูกจ้างที่มีการนำส่งประกันสังคม จากกรณีดังกล่าว พรรคประชาชนมีข้อกังวลว่า การชดเชยเยียวยาลูกจ้างทั้งหมดจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนายจ้าง ผู้รับเหมาในการก่อสร้างและรัฐบาล เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิเสธความรับผิดชอบ รวมทั้งการตรวจสอบตัวตนและทายาทของผู้ประกันตนในกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน หากไม่สามารถดำเนินการได้รวดเร็ว จะทำให้การพิสูจน์ตัวตนทำได้ยากขึ้น เช่นเดียวกับการเข้าถึงสิทธิการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยการหยุดงานของผู้บาดเจ็บ ต้องตรวจสอบเพื่อนำสืบสิทธิตามกฎหมาย ขณะที่การเข้าถึงการชดเชย เยียวยา ของแรงงานที่นายจ้างไม่ได้นำเข้าระบบประกันสังคม โดยเฉพาะแรงงานข้ามชาติที่ยังอยู่ในขั้นตอนของทางเอกสาร และรอสิทธิประกันสังคม ปัญหาการติดต่อสื่อสารและเข้าถึงข้อมูลของแรงงานข้ามชาติดังกล่าวกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเอกสารประจำตัวของแรงงานข้ามชาติที่สูญหายและไม่สามารถดำเนินการต่ออายุได้ในระหว่างที่มีกระบวนการการต่ออายุเอกสาร
นายเซีย กล่าวด้วยว่า ตนและพรรคประชาชน จึงมีข้อเสนอถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อให้การเยียวยาแรงงานไม่ล่าช้า โดยขอความร่วมมือให้บริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งผู้รับเหมาหลักและผู้รับเหมาช่วง ส่งรายชื่อผู้รับเหมาช่วงและลูกจ้างทั้งหมด พร้อมหลักฐานการนำส่งสำนักงานประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน เพื่อดำเนินการชดเชยเยียวยาต่อไป รวมทั้งกำหนดมาตรการให้สำนักงานประกันสังคมและสำนักงานกองทุนเงินทดแทนพิจารณานำเงินในกองทุนเงินประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทนมาใช้ชดเชยเยียวยาให้ลูกจ้างและทายาท ทั้งหมด โดยไม่มีการแยกลูกจ้างในกองทุนหรือนอกกองทุน และให้ถือเป็นหน้าที่ของกระทรวงแรงงานในการบังคับใช้กฎหมายกับนายจ้างที่ไม่นำส่งประกันสังคมต่อไป นอกจากนี้ จำเป็นต้องกำหนดมาตรการการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองแรงงานในการเยียวยาและให้ความรับผิดชอบในการชดเชย โดยให้นายจ้างชั้นต้น (บริษัทที่รับเหมาหลัก) ร่วมรับผิดชอบในค่าชดเชยร่วมกับผู้รับเหมารายย่อย ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานต้องอำนวยความสะดวกในการพิสูจน์ตัวตนและทายาทในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ โดยให้มีจุดประสานงานที่ชัดเจน เพื่อทำงานตรวจสอบและดูแลแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้อย่างครอบคลุม รวมทั้งตั้งจุดประชาสัมพันธ์ และตั้งเบอร์โทรกลาง ประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึงเพื่อให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการพิสูจน์ตัวตนทายาทอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทายาทของทั้งแรงงานไทยและแรงงานข้ามชาติ ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด รวมถึงจัดหาล่ามและจัดทำเอกสารข้อมูลที่เป็นภาษาของแรงงาน ระบุขั้นตอนที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย ประสานงานกับสถานทูตของประเทศต้นทางอย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการ
นายเซีย กล่าวด้วยว่า กระทรวงแรงงานต้องมีมาตรการผ่อนผันด้านเอกสารแรงงานในระหว่างการขอใบอนุญาตทำงาน เพื่ออำนวยความสะดวกในสถานการณ์ฉุกเฉิน พร้อมเปิดให้มีการขึ้นทะเบียนสำหรับลูกจ้างในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างตึกดังกล่าว เพื่อจัดเก็บข้อมูลและอนุญาตให้นายจ้างสามารถส่งเงินสมทบประกันสังคมย้อนหลังเพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิในการเยียวยา อาจจะเปิดขึ้นทะเบียนในสถานการณ์ภัยพิบัติ จากการประกาศเขตภัยพิบัติ งดเว้นค่าใช้จ่าย เพื่อจูงใจให้นายจ้างนำแรงงานมาขึ้นทะเบียนต้องตั้งเป้าเยียวยาทุกคนเป็นหลัก เรื่องการจ้างแรงงานผิดกฎหมายเป็นเรื่องหลังจากนี้ รวมทั้งต้องมีกระบวนการตรวจสอบการจ่ายค่าจ้างที่ลูกจ้างได้ทำงานมาแล้ว เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสไม่จ่ายค่าจ้าง พร้อมทั้งประสานงานและตรวจสอบลักษณะการจ้างงานของลูกจ้างในบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการเยียวยาแรงงาน นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน ควรพิจารณานำเงินกองทุนที่เกี่ยวข้องมาช่วยเยียวยาครอบครัวและแรงงานที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดโดยเร่งด่วน รวมทั้งกำหนดแนวทางตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และพิจารณาออกแนวทางในการกำหนดมาตรการความปลอดภัยในการทำงานในกิจการก่อสร้าง
นายเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรคประชาชนขอร่วมส่งกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และพรรคพร้อมสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ และหวังว่ารัฐบาลโดยกระทรวงแรงงานจะพิจารณาข้อเสนอเหล่านี้ ทำให้แรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบ เข้าถึงสิทธิและการเยียวยาจากภาครัฐอย่างรวดเร็ว เสมอภาค เป็นธรรม
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
