24 มี.ค68- สส.วิโรจน์ พรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจ “นายกรัฐมนตรี แพทองธาร” ชี้มีพฤติกรรมเลี่ยงจ่าย “ภาษีการรับให้” รวม 218 ล้านบาท หลังพบออกตั๋วสัญญาใช้เงินให้บุคคลในครอบครัวแต่ไม่มีการคิดดอกเบี้ย และกำหนดวันชำระค่าหุ้น

image

        ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่นายณัฐพงษ์  เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และหัวหน้าพรรคประชาชน กับคณะ สส.ฝ่ายค้าน จำนวน 165 คน เป็นผู้เสนอ

        นายวิโรจน์  ลักขณาอดิศร สมาชิกผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจการปฏิบัติหน้าที่ของนางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อาจมีการทำนิติกรรมอำพรางเพื่อหลีกเลี่ยงการจ่าย “ภาษีการรับให้” นับตั้งแต่ปี 2559 ว่า เดิมก่อนที่จะมี “ภาษีการรับให้” การจะโอนหุ้นไปให้บุคคลใดนั้น จะมีการโยกย้ายถ่ายเทหุ้นโดยอ้างว่าให้โดยเสน่หา เพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี แต่เมื่อวันที่ 5 ส.ค.58 มีการแก้ไขกฎหมายประมวลรัษฎากรในส่วนของ “ภาษีการรับให้” และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ก.พ.59 เป็นต้นไป ส่งผลให้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 42(27) เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะ หรือจากการให้โดยเสน่หาจากบุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส จะได้รับการยกเว้นภาษีเฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 20 ล้านบาท ตลอดปีภาษีนั้น กล่าวคือ หากให้เกิน 20 ล้านบาท ส่วนที่เกินต้องเสียภาษีในอัตรา 5% และในมาตรา 42(28) เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี จากบุคคลซึ่งไม่ใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส จะได้รับการยกเว้นภาษีเฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท หมายความว่า พี่ให้น้อง น้องให้พี่ ลุงให้หลานหลานให้ลุง ถ้าเกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่เกินต้องเสีย “ภาษีรับให้” ในอัตรา 5% เช่นเดียวกัน

        นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า กรณีนางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พบว่ามีการใช้ช่องว่างทางกฎหมายหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้ นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา ซึ่งจากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนางสาวแพทองธาร ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พบว่า เป็นลูกหนี้อยู่ 9 รายการ มูลค่าหนี้สินรวม 4,434.5 ล้านบาท แต่เมื่อดูรายละเอียดของเอกสารประกอบ หนี้สิน 9 รายการดังกล่าว กลับมีเอกสารแนบมาเพียงแค่ 9 แผ่น รายการละ 1 แผ่น ดังนั้น หนี้สินของนางสาวแพทองธาร ทั้ง 9 รายการที่ระบุเอาไว้ที่บัญชีทรัพย์สินดังกล่าวจึงไม่ใช่หนี้ที่อยู่ในรูปแบบของสัญญาเงินกู้ แต่เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือตั๋ว PN ซึ่งเป็นหนี้สินที่นางสาวแพทองธาร ซื้อหุ้นจากบุคคลในครอบครัวแบบ “ซื้อเชื่อ” แล้วออกตั๋ว PN แทนการจ่ายเงิน ตนมีข้อสังเกต คือ รายการหนี้สินดังกล่าว ไม่มีกำหนดว่านางสาวแพทองธาร ต้องจ่ายค่าซื้อหุ้นเมื่อใด และไม่มีใครคิดดอกเบี้ย ดังนั้น ตนมีข้อสังเกตว่า อาจมีการใช้ตั๋ว PN เป็นเครื่องมือในการทำนิติกรรมอำพราง เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีการรับให้ ถือเป็นพฤติกรรมที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนหรือไม่ ซึ่งตั๋ว PN ทั้ง 9 ฉบับ เป็นการออกตั๋วหลังจากวันที่ 1 ก.พ.59 ซึ่งเป็นวันที่ภาษีการรับให้ มีผลบังคับใช้ทั้งสิ้น

        นายวิโรจน์ กล่าวอภิปรายว่า ข้อแตกต่างระหว่าง “การได้หุ้นจากการให้” กับ “การซื้อหุ้น” คือ หลักเกณฑ์การรับรู้รายได้ในการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะใช้เกณฑ์เงินสด ซึ่งรายได้จะถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมิน ก็ต่อเมื่อมีการรับเงินสดจริง ดังนั้นการที่นางสาวแพทองธาร จ่ายค่าหุ้นที่ซื้อด้วยตั๋ว PN ที่ไม่ได้มีการจ่ายเงินกันจริง และไม่ทราบว่าจะจ่ายเงินให้เมื่อใด ทำให้บุคคลในครอบครัวงไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาแม้แต่บาทเดียว และในกรณีที่มีการจ่ายค่าซื้อหุ้นกันในภายหลังบุคคลในครอบครัวก็ไม่ต้องเสียภาษีรายได้บุคคลธรรมดาอยู่ดี เพราะตามมาตรา 40(4)(ช) ของประมวลรัษฎากรกำหนดว่า รายได้จากการขายหุ้นนอกตลาดหลักทรัพย์ เฉพาะส่วนเกินจากมูลค่าหุ้น (Capital Gain) หรือกำไรจากการขายหุ้นเท่านั้น จึงจะถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมิน ดังนั้นหากบุคคลในครอบครัวขายหุ้นให้กับนางสาวแพทองธาร ในราคาทุนหรือราคาพาร์ บุคคลในครอบครัวก็ไม่ต้องจ่ายภาษีรายได้บุคคลธรรมดาแม้แต่บาทเดียว และเมื่อคำนวณแล้ว กรณีดังกล่าวอาจเป็นใช้ตั๋ว PN เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีการรับให้เป็นเงินสูงถึง 218.7 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้ อาจจะมีผู้ร้องไปที่ ป.ป.ช. เนื่องจากมีอำนาจตามมาตรา 234 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในการไต่สวนและมีความเห็นต่อกรณีที่แพทองธาร ชินวัตร ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และพิจารณาส่งสำนวน และความเห็นของ ป.ป.ช. ไปที่ศาลฎีกาต่อไป

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ