นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่าทั่วโลกมีแนวโน้มพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลดลง เช่นเดียวกับประเทศไทย โดยจากข้อมูลวันที่ 19 - 25 มี.ค. 66 พบผู้ป่วยรายใหม่ 150 ราย เฉลี่ย 21 รายต่อวัน ผู้ป่วยปอดอักเสบ 30 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 19 ราย และผู้เสียชีวิต 6 ราย เฉลี่ย 1 รายต่อวัน อย่างไรก็ตาม ผู้เสียชีวิตทั้งหมดยังเป็นกลุ่ม 608 และส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีน หรือได้รับเกิน 3 เดือน ส่วนภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ซึ่งฉีดไปแล้วกว่า 6 หมื่นราย พบว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรง และยังช่วยลดอัตราเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือ LAAB และในกลุ่มเสี่ยงที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล พบว่าช่วยลดการเสียชีวิตลงได้ประมาณ 1 ใน 4 จึงให้แจ้งหน่วยงานในพื้นที่เร่งรัดการฉีด LAAB ให้กับกลุ่มเสี่ยงในบ้านพักคนชรา ผู้ป่วยติดบ้านติดเตียง ผู้ป่วยฟอกไต โดยให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพกำกับติดตามให้เสร็จก่อนช่วงเดือน พ.ค. พร้อมกับรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มอื่นควบคู่กันไป
ปลัด สธ. กล่าวด้วยว่าการเฝ้าระวังสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย สายพันธุ์ที่พบมากสุดยังเป็น BA.2.75 แต่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่สายพันธุ์ลูกผสม XBB.1.5 และ XBB.1.9.1 มีแนวโน้มสูงขึ้น ส่วนสายพันธุ์ XBB.1.16 ที่พบในประเทศอินเดียและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีตำแหน่งกลายพันธุ์ที่สัมพันธ์กับความสามารถในการหลบภูมิคุ้มกันทั้งจากการติดเชื้อธรรมชาติและจากวัคซีน มีการเติบโตสูงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ยังไม่มีหลักฐานว่าจะส่งผลต่อความรุนแรงของโรค และผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามีแนวโน้มที่จะกลายมาเป็นสายพันธุ์หลักในที่สุด ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในประเทศไทย ทั้งนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และเครือข่ายห้องปฏิบัติการของประเทศไทย ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก เพจเฟซบุ๊กกระทรวงสาธารณสุข