24 ธ.ค. 68 - กมธ.แรงงาน วุฒิสภา ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี รับฟังข้อเสนอแนะผลการดำเนินงานของ อนุ กมธ.ประกันสังคม ปี 2568 เดินหน้า 4 วาระหลัก ชู “ธนาคารแรงงาน” เป็นรูปธรรม ปี 2569

image

          คณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา นำโดย นายชินโชติ แสงสังข์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ และประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านการประกันสังคม ลงพื้นที่ประชุมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมาธิการฯ ในปี 2568 ร่วมกับสำนักงานประกันสังคมจังหวัดราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ นครปฐม กาญจนบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และเพชรบุรี รวมถึงผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี
          นายชินโชติ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมสะท้อนความคิดเห็นต่อผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ในประเด็นด้านการประกันสังคม ซึ่งตลอดปีที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาศึกษาใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่
          1. เรื่องการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม หรือบอร์ดประกันสังคม โดยนายชินโชติ ระบุว่า ตลอดปีที่ผ่านมา คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาหลายรูปแบบ หลายโมเดล เพื่อหาวิธีการให้ได้มาซึ่งกรรมการประกันสังคมที่เหมาะสม โปร่งใส และสะท้อนเสียงของผู้ประกันตนอย่างแท้จริง ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีในครั้งนี้ ถือเป็นการสรุปผลงานและรับฟังความคิดเห็นจากพื้นที่ เพื่อมุ่งหาสูตรหรือโมเดลที่ดีที่สุดสำหรับการจัดตั้งบอร์ดประกันสังคม
          2. ปัญหาการบริหารเงินลงทุนของกองทุนประกันสังคม ที่ปัจจุบันยังติดกรอบและข้อจำกัดและระเบียบการลงทุน ทำให้ขาดความคล่องตัวในการบริหารจัดการเงินลงทุน นายชินโชติ กล่าวว่า มีข้อเสนอจากนักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นว่าควรออกนอกระบบในบางส่วนโดยเฉพาะสำนักบริหารการลงทุน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการลงทุน และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยชะลอความเสี่ยงที่กองทุนประกันสังคมจะร่อยหรอหรือหมดลงในอนาคต เพื่อสิทธิของผู้ประกันตน
          3. เรื่องการจัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคม ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องของผู้ประกันตน ที่เห็นว่ายังไม่ได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีพอ อย่างไรก็ตามจากการพิจารณาที่ประชุมเห็นว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลประกันสังคมโดยตรงอาจเผชิญปัญหาในหลายด้าน เบื้องต้นจึงมีข้อเสนอให้ใช้ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงาน 5 ศูนย์ ของกระทรวงแรงงานที่มีอยู่แล้วในหลายพื้นที่ เช่น ปทุมธานี ระยอง เชียงใหม่ ขอนแก่น และสงขลา เป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์บริการด้านสุขภาพสำหรับผู้ประกันตนก่อน
          และ 4. โครงการ “ธนาคารแรงงาน” ซึ่งนายชินโชติ ระบุว่า เป็นประเด็นที่มีความเป็นรูปธรรมที่สุดในปี 2569 โดยยอมรับว่า หากจัดตั้งธนาคารแรงงานขึ้นใหม่โดยตรง จะมีข้อจำกัดและอุปสรรคจำนวนมาก ดังนั้น แนวทางเบื้องต้นที่ได้ข้อสรุปคือ การขอให้สำนักงานประกันสังคมนำเงินกองทุนของผู้ประกันตนบางส่วน ประมาณ 30,000–50,000 ล้านบาท ไปฝากไว้กับธนาคารของรัฐแห่งใดแห่งหนึ่ง พร้อมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันระหว่างธนาคารกับสำนักงานประกันสังคม เพื่อผ่อนปรนหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของผู้ใช้แรงงาน
          นายชินโชติ กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของผู้ประกันตนในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน คือ การติดเครดิตบูโร การไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และข้อจำกัดด้านความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ใช้แรงงานที่มีรายได้ไม่สูง ซึ่งเงินจำนวน 30,000–50,000 ล้านบาทดังกล่าว เป็นเงินของผู้ประกันตนเอง คณะกรรมาธิการฯ จึงหาวิธีการทำให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนนี้ได้ ซึ่งมั่นใจว่าเรื่องธนาคารแรงงาน หรือการทำให้ผู้ใช้แรงงานเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ จะเป็นเรื่องที่สามารถผลักดันให้เกิดผลสำเร็จได้จริง และจะเป็นหนึ่งในผลงานสำคัญของคณะกรรมาธิการการแรงงาน วุฒิสภา ในปี 2569
          ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ จะนำผลการศึกษาและข้อเสนอทั้งหมดไปจัดทำเป็นรายงาน เพื่อพิจารณาในรายละเอียดและความรอบคอบอีกครั้ง ก่อนเสนอให้ประธานวุฒิสภาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมวุฒิสภา และส่งต่อไปยังกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบด้านการประกันสังคม เพื่อพิจารณานำไปสู่การดำเนินการเชิงนโยบายต่อไป

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ