19 ธ.ค.68 - กมธ.การพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา รับเรื่องร้องเรียนจากเครือข่ายประชาชนอุดรธานี ขอช่วยตรวจสอบและยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าขยะ อบจ.อุดรธานี กระทบชุมชน แหล่งน้ำ และโบราณสถาน เสี่ยงกระทบสุขภาพ–สิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งข้อสังเกตกระบวนการรับฟังความคิดเห็นไม่เปิดกว้างต่อประชาชน

image

        นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับการยื่นหนังสือจากมูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม พร้อมเครือข่ายประชาชน เพื่อขอให้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการจัดตั้งโครงการโรงไฟฟ้าขยะในจังหวัดอุดรธานี โดยนางสาวรัศมี หังษาบุตร ตัวแทนจากตำบลเชียงหวาง อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี ระบุว่า การยื่นหนังสือในครั้งนี้ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ และยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าขยะขององค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เนื่องจากพื้นที่ตั้งโครงการมีความไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะอยู่ใกล้ชุมชนเพียง 200–300 เมตร ภายในรัศมีดังกล่าวมีบ้านเรือน 27 หลัง มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 100 คน ซึ่งชาวบ้านมีความกังวลว่า หากมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน ทั้งจากสารเคมีและมลพิษต่าง ๆ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวยังพบแหล่งโบราณวัตถุและโบราณสถาน ซึ่งมีการสำรวจเบื้องต้นแล้ว และมีหนังสือแจ้งไปยังบริษัทผู้ดำเนินโครงการ โดยพื้นที่ดังกล่าวต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ และยังอยู่ใกล้แหล่งพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญต่อชุมชน ทั้งในด้านการอนุรักษ์พันธุ์ปลา และการเป็นแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำประปาชุมชน โดยในปี 2567 สภาองค์การบริหารส่วนตำบลเคยมีมติอนุมัติงบประมาณเพื่อขุดลอกและจัดการแหล่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าว ขณะเดียวกันประชาชนในพื้นที่ยังแสดงความกังวลว่า พื้นที่โครงการซึ่งมีขนาดกว่า 200 ไร่ ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำที่หล่อเลี้ยงหลายชุมชน หากมีการตั้งโรงงาน อาจเกิดการปนเปื้อนของสารพิษลงสู่แหล่งน้ำ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ที่ผ่านมาไม่ได้รับความเป็นธรรมในกระบวนการดำเนินโครงการ โดยเฉพาะการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นที่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างทั่วถึง และมีการเชิญเฉพาะกลุ่มบุคคลบางส่วน ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบอย่างชัดเจน จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและยกเลิกโครงการดังกล่าว

        ด้านนายนรเศรษฐ์ กล่าวว่า ปัญหาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะไม่ใช่ปัญหาเฉพาะพื้นที่ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบ เนื่องจากคณะกรรมาธิการฯเคยได้รับเรื่องร้องเรียนในลักษณะเดียวกันจากหลายจังหวัด ซึ่งสะท้อนว่าโครงการลักษณะนี้มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจากข้อมูลของประชาชนพบว่า โครงการส่งผลกระทบต่อชุมชนในหลายมิติ ทั้งด้านการเกษตร แหล่งน้ำ และแหล่งโบราณสถาน ซึ่งการดำเนินโครงการของรัฐต้องอยู่บนหลักการเคารพสิทธิมนุษยชน หลักสิ่งแวดล้อม และหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีความหมาย หากขาดกระบวนการมีส่วนร่วม ย่อมไม่อาจถือว่าเป็นการดำเนินการที่ชอบธรรมได้ ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯ และประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ชี้แจงถึงกระบวนการดำเนินโครงการ พร้อมยืนยันว่า โครงการของรัฐที่ส่งผลกระทบต่อชุมชน จำเป็นต้องจัดทำขึ้นด้วยความเคารพต่อสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง

 

อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ