นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมฯ เพื่อพิจารณาศึกษาข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่โทรคมนาคมบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการใช้คลื่นความถี่นอกเหนือจากที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ตลอดจนผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการติดตั้งเสาสัญญาณ โดยเชิญหน่วยงานด้านโทรคมนาคม หน่วยงานกำกับดูแล และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร่วมชี้แจงและให้ข้อมูล
ประธานคณะกรรมาธิการฯ เปิดเผยว่า ได้รับข้อร้องเรียนกรณีเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ พื้นที่ป่าสงวน เขตป่าไม้ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการจับกุมในช่วง 1-2 ปี แต่ยังไม่พบการดำเนินคดีอย่างชัดเจน จึงขอให้ผู้ให้บริการเครือข่ายเพิ่มความระมัดระวังและรับผิดชอบ เพื่อป้องกันการถูกใช้เป็นเครื่องมือของขบวนการสแกมเมอร์ และการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมาย พร้อมเชื่อว่าหากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง จะช่วยลดบทบาทของขบวนการหลอกลวงคนไทยในพื้นที่ชายแดนได้
ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม รายงานผลการตรวจสอบเสาสัญญาณโทรคมนาคมของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2 ราย พบว่ามีทั้งกรณีที่ได้รับอนุญาตและยังไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นมีจำนวนกว่า 1,500 จุดในพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ป่าไม้ และพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อผู้ให้บริการที่บุกรุกพื้นที่ป่า รวมถึงกรณีที่รื้อถอนเสาไปแล้ว แต่ยังไม่ดำเนินการทางคดี เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณในลักษณะเอื้อประโยชน์ต่อการกระทำผิด เช่น แก๊งสแกมเมอร์ เว็บพนันออนไลน์ และการเคลื่อนไหวของบัญชีม้า ซึ่งเป็นต้นทางของปัญหายาเสพติดและการค้ามนุษย์
ขณะที่ผู้แทน กสทช. รายงานว่า ปัจจุบันมีเสาสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องจำนวน 2,705 จุด และอยู่ระหว่างตรวจสอบพิกัดร่วมกับหน่วยงานป่าไม้เพื่อยืนยันว่ามีการล้ำเขตพื้นที่อนุรักษ์หรือไม่ ทั้งนี้ ยอมรับว่าพื้นที่ชายแดน เช่น ปอยเปต ท่าขี้เหล็ก ชเวโกกโก และเคเคปาร์ค เป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการแพร่ข้ามพรมแดนของสัญญาณโทรคมนาคม และการควบคุมให้ไม่ล้ำเขตไทยนั้น ทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม การติดตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 โดย กสทช. มีแนวทางยกเลิกการเปรียบเทียบปรับ และปรับเป็นการดำเนินคดีอาญาทุกกรณี เพื่อให้เกิดความเด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ลักลอบติดตั้งเสาสัญญาณตามสัดส่วนของความเสียหายและผลกระทบต่อสังคม
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
คณะ กมธ.การทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ
