นายสยาม เพ็งทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) จังหวัดบึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความจำเป็นของโครงการก่อสร้างสนามบินจังหวัดบึงกาฬว่า เป็นโครงการที่ชาวจังหวัดบึงกาฬเฝ้ารอมาอย่างยาวนาน เนื่องจากจังหวัดบึงกาฬอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครประมาณ 765 กิโลเมตร หากเดินทางด้วยรถยนต์ต้องใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง และในช่วงเทศกาลอาจใช้เวลานานถึง 15–20 ชั่วโมง ส่วนการเดินทางโดยเครื่องบิน ประชาชนจำเป็นต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องที่สนามบินจังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จังหวัดอุดรธานี นครพนม และสกลนคร ซึ่งอยู่ห่างจากบึงกาฬประมาณ 200 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาเดินทางรวมกว่า 5–6 ชั่วโมง กว่าจะสามารถเดินทางถึงปลายทางได้ ขณะที่ปัจจุบันสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 บึงกาฬ–บอลิคำไซ ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชายแดน ทั้งด้านการขนส่งสินค้าเกษตร การค้าระหว่างประเทศ และการลงทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และสาธารณรัฐประชาชนจีน ในขณะเดียวกัน บึงกาฬยังเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียง เช่น หินสามวาฬ ถ้ำนาคา และภูทอก ซึ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่รายได้จากการท่องเที่ยวยังไม่สามารถกระจายสู่ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากข้อจำกัดด้านการคมนาคมและการเดินทาง
นายสยาม กล่าวต่อว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าอุปสรรคสำคัญที่ฉุดรั้งการพัฒนาจังหวัดบึงกาฬคือเรื่องการเดินทาง ชาวบึงกาฬเชื่อว่าโครงการสนามบินบึงกาฬจะเป็นโครงการที่คุ้มค่า สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว พัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชนในการเดินทาง จึงฝากข้อเสนอถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กรมท่าอากาศยาน และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ให้เร่งรัดการดำเนินการทุกขั้นตอน พร้อมจัดตั้งงบประมาณสำหรับโครงการก่อสร้างสนามบินบึงกาฬโดยเร็ว เพื่อยกระดับจังหวัดบึงกาฬให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางและพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ตลอดจนสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง