น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร และคณะ เข้าหารือกับนายมาร์ค กูดดิ้ง เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย ในประเด็นไทย-กัมพูชาหลังมีข้อตกลงหยุดยิง ณ กรุงปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย โดยเป้าประสงค์หลักในการหารือครั้งนี้ คือ เพื่อสื่อสารกับมิตรประเทศในฐานะตัวแทนของรัฐสภาและคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีมูลเหตุมาจากข้อพิพาทด้านเขตแดนที่ได้ดำเนินมาเป็นระยะเวลานานหลายทศวรรษ แต่กลไกทวิภาคีได้ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกันได้โดยสันติ จนกระทั่งในช่วงระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนที่ผ่านมา ทางกัมพูชาได้หยุดเข้าร่วมกลไกดังกล่าวและมีท่าทีสร้างความขัดแย้งมากขึ้น หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุมาจากการเมืองภายในประเทศกัมพูชาที่ถูกเบี่ยงเบนมาเป็นประเด็นในเรื่องเขตแดน
น.ส.สรัสนันท์ ระบุว่า ประเทศไทยเน้นย้ำถึงจุดยืนที่จำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานของฝ่ายกัมพูชา โดยการใช้กำลังเป็นไปด้วยความจำเป็นเพื่อตอบโต้ต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น หลังจากที่กัมพูชาได้เริ่มโจมตีโรงพยาบาล ย่านเศรษฐกิจ และบ้านเรือนประชาชน เป็นเหตุให้เด็ก ผู้สูงอายุ พลเรือนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และอพยพหนีภัยเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยึดมั่นตามพันธะกรณีระหว่างประเทศมาโดยตลอด และก็ประสงค์ให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติเช่นเดียวกัน แต่คณะกรรมาธิการมีความกังวลกับการกระทำของรัฐบาลกัมพูชา ที่นอกจากจะละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงแล้ว ยังปรากฏการสื่อสารโดยรัฐบาลที่ใช้ข้อมูลเท็จแจ้งต่อประชาชนชาวกัมพูชา ส่งผลให้เกิดความตึงเครียดระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแต่เดิมที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติ ซึ่งอาจใช้เวลาหลายสิบปีในการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ให้กลับมาดังเดิม และการกระทำดังกล่าว ยังบั่นทอนเสถียรภาพของอาเซียนอีกด้วย
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการหาทางออกโดยสันติวิธี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการพิทักษ์ความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน จะมีบทบาทช่วยให้สถานการณ์ความขัดแย้งคลี่คลายโดยเร็ว
โดยฝ่ายสหราชอาณาจักรได้ขอบคุณคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ ที่ได้มาให้ข้อมูล และได้เน้นย้ำจุดยืนที่ต้องการให้ทั้งสองฝ่ายหยุดยิงและแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ซึ่งการมีข้อตกลงหยุดยิงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และสหราชอาณาจักรหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะเคารพข้อตกลง แต่ก็เข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดความไว้วางใจระหว่างกันอีกครั้ง และจะได้นำข้อมูลที่ได้รับแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบต่อไป
เครดิต : ข่าวและภาพโดย คณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร