นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) พร้อมด้วย นางสาวมณีรัตน์ เขมะวง สว. ร่วมกันแถลงข่าว เรื่อง “การยื่นญัตติชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และอัยการสูงสุด และการให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่ สว. จำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ว่า ตาม มติที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 เห็นควรเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาตั้ง กมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการเลือกตั้งจำนวน 1 คน และบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจำนวน 2 คน รวมทั้งการให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช. ซึ่งบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ วันที่ 29 - 30 พ.ค.68
นายเทวฤทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม ว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรอิสระดังกล่าวที่ สว. ต้องให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบนั้นมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวน ไต่สวน หรือพิจารณาคดีของ สว. จำนวนมากที่ขณะนี้ตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้อง ถึง 3 คดี ได้แก่ 1. คดีที่ สว. จำนวน 92 คน เสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ กรณีแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของ กกต. โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว.ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ 2. คดี สว. จำนวนมาก ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหามีเหตุอันควรสงสัยว่าได้กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 70 ประกอบมาตรา 36 มาตรา 77 (1) และมาตรา 62 ซึ่งขณะนี้มีคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลางคณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต.กำลังดำเนินกระบวนการทางคดีอยู่ และ 3. คดี สว.จำนวน 105 คน ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากการรับพิจารณาคดีซึ่ง สว. จำนวนมากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ให้เป็นคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยไม่มีอำนาจ
นายเทวฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่า เพื่อให้กระบวนการดำเนินคดีของศาลรัฐธรรมนูญ กกต. และ ป.ป.ช. ที่ สว. ตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้อง เป็นไปโดยอิสระ ผู้ทำหน้าที่วินิจฉัยคดีจึงไม่ควรมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับคู่ความในคดี โดยเฉพาะการให้ความเห็นชอบผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวเพิ่มเติมในขณะนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งต่อวุฒิสภาได้ ดังนั้น ตนและคณะจึงขอเสนอญัตติดังกล่าวมาเพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาชะลอการตั้งคณะ กมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคล ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กกต. และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกไปก่อน รวมทั้งการให้ความเห็นชอบบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง ป.ป.ช.จนกว่ามีคำตัดสินเป็นที่ยุติในคดีที่ สว.จำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้อง ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา พ.ศ. 2562 ข้อ 35 เพื่อให้ที่ประชุมวุฒิสภาได้พิจารณาญัตติดังกล่าว และมีมติต่อไป
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง