นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน กล่าวถึงความคืบหน้าการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ว่า ปัจจุบัน รัฐบาลโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลทรัพยากรและระบบนิเวศของประเทศ ยังคงนิ่งเฉยต่อผลกระทบจากปัญหาปลาหมอคางดำและการเปลี่ยนแปลงของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก แม้ว่าเมื่อเดือน ส.ค.67 รัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำเป็นวาระแห่งชาติ ในขณะที่ คณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย สภาผู้แทนราษฎร ที่มีตนเป็นรองประธาน ได้แจ้งข้อสังเกตถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว โดยระบุว่ากระทรวงฯ ควรทำหน้าที่เป็นตัวแทนประชาชนในการนำผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามมาตรา 97 แห่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 โดยเร็วที่สุด แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ
นายณัฐชา กล่าวด้วยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ตนได้ร่วมเวที “ฟื้นฟูระบบนิเวศ ปกป้องความมั่นคงทางอาหาร กรณีการระบาดของปลาหมอคางดำ พื้นที่สงขลา-นครศรีธรรมราช” จัดโดยมูลนิธิชีววิถี (BioThai) ครัวใบโหนด เครือข่ายกลุ่มออมทรัพย์คาบสมุทรสทิงพระ เครือข่ายความมั่นคงทางอาหารภาคใต้ และขบวนการสร้างเสริมสุขภาพประชาชน (ขสช.) ทำให้ทราบข้อมูลจากตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรจังหวัดสงขลาว่าสถานการณ์ปลาหมอคางดำในพื้นที่หนักกว่าเดิมและเลวร้ายกว่าที่คิด จึงอยากให้ภาครัฐให้ความสำคัญและเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน ไม่เช่นนั้นแล้ว ผู้ทำประมงน้ำจืดและระบบนิเวศของไทยจะได้รับผลกระทบมากขึ้นในอนาคต และการแก้ปัญหาจะยากลำบากมากขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ ตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศเขตภัยพิบัติเพื่อให้ประชาชนได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เช่นเดียวกับกรณีโรคลัมปีสกินที่แพร่ระบาดในวัว เนื่องจากปลาหมอคางดำระบาดในแหล่งน้ำ ในบ่อกุ้ง บ่อปลา ทำลายผลผลิตทำให้เกิดความเสียหาย ก็ควรเยียวยาประชาชนให้เหมาะสมเช่นกัน
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
ภาพ แฟ้มภาพ
