ผู้ช่วยศาสตราจารย์นพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย และ นายชลัฐ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เข้าร่วมการประชุมการประชุมว่าด้วยบทบาทของรัฐสภาในการกำหนดอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีความรับผิดชอบ (The Role of Parliament in Shaping the Future of Responsible AI) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28–30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โอกาสนี้ คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมการประชุมเชิงนโยบายด้าน AI ในหัวข้อ การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในยุค AI ซึ่งมีการอภิปรายถึงผลกระทบของ AI ต่อภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ตลาดแรงงาน และการใช้ AI ในชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้เทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งนายชลัฐได้รับเชิญเป็นผู้ร่วมอภิปราย และได้นำเสนอบทบาทของรัฐสภาไทยในการกำหนดกรอบนโยบายและกลไกกำกับดูแลการใช้ AI บนพื้นฐานของความเท่าเทียมและการเข้าถึงของประชาชนทุกกลุ่ม พร้อมยกตัวอย่างการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ พ.ศ. 2565–2570 ที่มุ่งเพิ่มผู้ใช้ AI ให้ถึง 10 ล้านคนภายในสองปีข้างหน้า ควบคู่กับการพัฒนาแรงงานทักษะด้าน AI และการส่งเสริมอุตสาหกรรม AI ของประเทศ อีกทั้งยังเน้นย้ำว่าการขับเคลื่อนสังคมสู่ยุค AI ต้องตั้งอยู่บนหลักความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และการกำกับดูแลโดยมนุษย์ พร้อมสร้างความตระหนักรู้แก่สังคมทั้งในด้านคุณประโยชน์และความเสี่ยงจาก AI โดยต้องบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการนำเสนอของผู้แทนไทยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมประชุมอย่างกว้างขวาง
คณะผู้แทนรัฐสภาไทยยังเข้าร่วมการประชุมหัวข้อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI ในรัฐสภา โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นพดล ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สหภาพรัฐสภา ได้รับเชิญเป็นผู้ร่วมอภิปรายบนเวทีร่วมกับผู้แทนจาก รัฐสภายุโรป ซึ่งได้สะท้อนแนวทางการพัฒนาโครงสร้างและการบริหารจัดการระบบ AI ของรัฐสภายุโรปอย่างเป็นระบบและปลอดภัย ทั้งนี้ได้นำเสนอแนวทางของไทยในการประยุกต์ใช้ AI ในกระบวนการนิติบัญญัติ ควบคู่กับการออกกฎหมายและการกำกับควบคุมภายใต้หลักธรรมาภิบาล โดยย้ำว่าการตัดสินใจขั้นสุดท้ายต้องอยู่ที่มนุษย์ พร้อมสะท้อน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ ความต้องการของสมาชิกรัฐสภาในฐานะผู้ใช้ AI รายใหม่ ความคาดหวังให้รัฐสภาเป็นผู้นำด้าน AI และแนวทางการปรับตัวของรัฐสภาทั้งเชิงนโยบายและการปฏิบัติ นอกจากนี้ยังได้นำเสนอรูปธรรมการดำเนินงานของวุฒิสภาไทยผ่านการจัดตั้ง ศูนย์วุฒิสภาอัจฉริยะ (Senate Intelligence Center) ที่ผสานการใช้ Big Data ระบบสืบค้นด้วย AI แดชบอร์ด และระบบติดตามงาน เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์กฎหมาย การกำกับติดตามงาน และการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ ภายหลังการอภิปราย ผู้แทนจากหลายประเทศได้ปรบมือแสดงความชื่นชม และขอเอกสารประกอบการนำเสนอเพื่อนำไปเผยแพร่และปรับใช้ในรัฐสภาของตน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้แบ่งกลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นธรรมาภิบาล AI การบริหารองค์กรในยุค AI และการพัฒนาขีดความสามารถด้าน AI ซึ่งคณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับสมาชิกรัฐสภาจากนานาประเทศอย่างกว้างขวาง เพื่อนำองค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาระบบรัฐสภาไทยให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคต
สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศสนง.สผ. ข้อมูล/ภาพ