สส.กัลยพัชร พรรคประชาชน หนุนตั้งบอร์ดลดความเหลื่อมล้ำ 3 สิทธิ

          นางสาวกัลยพัชร รจิตโรจ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แถลงถึงกรณีนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง คณะกรรมการพิจารณาค่ารักษาพยาบาลของสวัสดิการรักษาพยาบาลของประเทศไทย หรือ บอร์ดลดความเหลื่อมล้ำ 3 สิทธิ์ ว่า คณะกรรมการฯ ซึ่งมีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน และมีรัฐมนตรี ปลัด ข้าราชการระดับสูงหลายกระทรวง เป็นกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจเสนอแนะกำหนดนโยบายแนวทางการบริหารและมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล และบูรณาการความร่วมมือระหว่างส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพและบริการสุขภาพที่จำเป็นต่อประชาชน อย่างมีคุณภาพ มาตรฐาน มีหน้าที่และอำนาจในการแต่งตั้งคณะทำงานตามความเหมาะสม และรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ และปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีหรือ ครม. มอบหมาย
          นางสาวกัลยพัชร กล่าวว่า ตนขอสนับสนุนให้ปฏิบัติหน้าที่ให้สำเร็จ เนื่องจากสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำในสิทธิรักษาพยาบาล 3 ระบบสุขภาพ ยังคงมีอยู่ในหลายมิติ เช่น ชุดสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน จำนวนเงินชดเชยบริการที่แตกต่างกัน การกระจายบริการสาธารณสุขระหว่างในและนอกเขตเทศบาล ความเหลื่อมล้ำระหว่างระดับบริการ(ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ตติยภูมิ) ความเหลื่อมล้ำระหว่างประเภทการบริการ โดยการออกแบบกลไก จำนวนเงินชดเชยบริการ การออกแบบระบบข้อมูล เป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำในระบบบริการสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ในการตั้งคณะกรรมการดังกล่าว ตนมีความกังวลใน 3 เรื่อง ได้แก่ การที่ประธานกรรมการเป็นตัวแทนจากฝั่งการคลังสาธารณสุข ซึ่งอาจใช้มุมมองด้านการคลังมากเกินไป และตั้งธงไว้แล้วว่าจะต้องลดภาระค่ารักษาพยาบาล จนละเลยมิติคุณภาพมาตรฐานการให้บริการที่อาจต้องใช้งบประมาณในการลงทุนด้านการรักษาพยาบาลที่มากขึ้น เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนด้านสาธารณสุขที่น้อยเกินไป การขาดเสียงที่เป็นตัวแทนจากประชาชน จากผู้ป่วยหรือผู้ดูแล และสมาคมวิชาชีพอื่นที่ไม่ใช่แพทย์ ซึ่งจะช่วยสะท้อนความคิดเห็นจากเสียงของผู้รับบริการและผู้ปฏิบัติงาน โดยหวังว่าคณะกรรมการฯ จะสามารถเพิ่มตัวแทนจากกลุ่มนี้เข้าไปในคณะอนุกรรมการหรือคณะกรรมการต่อไป นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเรื่องการขาดกรอบเวลาทำงานและเป้าหมายที่ชัดเจน
          นางสาวกัลยพัชร กล่าวด้วยว่า หวังว่านายกรัฐมนตรีจะติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ เป็นระยะ และในฐานะที่คณะกรรมการฯ มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบสุขภาพ นายกรัฐมนตรีควรกำหนดกรอบการแถลงผลงานให้ประชาชนและรัฐสภารับทราบ และหวังว่านายพิชัยในฐานะประธานกรรมการฯ จะสามารถมาตอบกระทู้ถามของสภาผู้แทนราษฎร หากถูกยื่นกระทู้ถามเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงาน ซึ่งตนในฐานะ สส. และ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร จะติดตามการทำงานของคณะกรรมการฯ อย่างใกล้ชิดด้วย

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง