นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวแทนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจาก นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหา ประชาชนถูกหลอกลวงจากบริษัททัวร์เอกชน โดยมีการโฆษณาว่าสามารถดำเนินการด้านเอกสาร และนำผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย และท่องเที่ยวประเทศเกาหลีใต้ได้ โดยให้จ่ายเงินค่าเดินทางเพื่อไปทำงานและท่องเที่ยวดังกล่าว พร้อมกับการันตีว่าหากเดินทางไปแล้วมีปัญหาติดด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ทางบริษัทจะคืนเงินให้กับผู้เดินทางตามจำนวนเงินที่ได้ตกลงไว้ แต่ปรากฏว่าเมื่อผู้เดินทางจ่ายเงินให้กับทางบริษัทไปแล้ว กลับไม่สามารถติดต่อกับบริษัทได้ ส่วนผู้ที่เดินทางไปแล้วติดด่านตม.กลับไม่ได้รับเงินคืนตามที่ตกลงไว้ โดยกรณีที่เกิดขึ้นมีผู้เสียหายแล้วกว่า 100 คน แต่ละคนสูญเสียเงินรายละ 50,000 บาท ถึง 150,000 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้ประสงค์เดินทางที่ถูกหลอกให้ทำวีซ่า E8 สำหรับทำงานภาคเกษตรกรรมแต่เมื่อจ่ายเงินค่าวีซ่าและดำเนินการด้านเอกสารเรียบร้อยแล้ว แต่ปรากฏว่าวีซ่าไม่ผ่าน กลับไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากบริษัท และไม่ได้รับเงินคืน
นายแทนคุณ กล่าวต่อไปว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว พบว่าเส้นทางการเงินที่ถูกโอนจากผู้ประสงค์เดินทางไปยังบริษัททัวร์ ใช้ชื่อว่าบริษัท ดีไลท์ ทัวร์แอนต์เซอร์วิช จำกัด ซึ่งภายหลังได้ตรวจสอบข้อมูลกับกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ พบว่าชื่อบริษัทดักล่าวขึ้นสถานะว่าร้าง และยังพบอีกว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนต่อไปให้กับกับบริษัท ปารมี ทัวร์ จำกัด อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหายอย่างมาก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้ปานกลาง จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว
นายคัมภีร์ กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่าจากความเดือดร้อนของประชาชนทั้งการหลอกซื้อทัวร์เพื่อไปทำงานและซื้อทัวร์เพื่อไปท่องเที่ยว ทั้งสองกรณีเป็นการหลอกลวงประชาชนที่มีรายได้น้อยอยู่แล้ว แต่ต้องการไปท่องเที่ยว และหารายได้เพิ่มขึ้นแต่สุดท้ายกลับถูกหลอกให้เป็นหนี้ เนื่องจากต้องนำเงินไปจ่ายให้กับบริษัททัวร์ ทั้งนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา และส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ให้แก้ไขปัญหาต่อไป
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง