5 ก.พ.68- ประธาน กมธ.การที่ดินฯ สผ. รับหนังสือจากสหพันธ์ชาวไร่อ้อยฯ และคณะ เพื่อขอความเป็นธรรมและหาแนวทางแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ภาคเกษตรกรรม ย้ำ “การเผาอ้อย-ตอซังข้าว” ไม่ใช่สาเหตุหลักของฝุ่นพิษ แนะรัฐบาลควรแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่าใช้บทลงโทษเกษตรกรอย่างรุนแรง

image

        นายพูนศักดิ์  จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร และคณะ รับหนังสือจากนายเอกราช  ตัณฑิกุล ผู้แทนสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เรื่อง ขอความเป็นธรรมและหาทางแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากการเผาในภาคเกษตรกรรม เนื่องจากปัจจุบันปัญหาฝุ่น PM 2.5 ฟุ้งกระจายปกคลุมทั่วประเทศ ก่อให้เกิดปัญหามลพิษ กระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยที่มาของฝุ่น PM 2.5 เกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ  มลพิษควันจากการจราจร ท่อไอเสียรถยนต์ การเผาและทำลายป่า จากภาคอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และจากการเผาเศษวัสดุจากไร่นา ภาคเกษตรกรรม อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยฯ และเครือข่าย เห็นว่าตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข่าวสารโดยระบุว่า การเผาอ้อยและตอซังข้าว เป็นตัวการสำคัญในการสร้างปัญหาฝุ่น PM 2.5 ทั้งที่ต้นเหตุของฝุ่น PM 2.5 เกิดจากหลายสาเหตุ ส่งผลให้ภาคเกษตรกรรมตกเป็นจำเลยสังคม รวมทั้งรัฐบาลได้ออกมาตรการลงโทษและปรับในอัตราสูงทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ อาทิ การจับกุมเกษตรกรรายย่อย หรือการปิดโรงงาน แทนที่จะสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างและเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน โดยไม่ทำให้เกษตรกรชาวไร่ และชาวนา ตกเป็นจำเลยสังคมแต่ฝ่ายเดียว ดังนั้น สมาพันธ์ชาวไร่อ้อยฯ และเครือข่าย จึงขอให้คณะ กมธ.ที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณา และศึกษานโยบายและแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาของชาวไร่อ้อยและเกษตรกรอื่น ๆ ให้ได้รับความเป็นธรรมด้วย

        นายพูนศักดิ์ ประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนจะนำปัญหาของเกษตรกรชาวไร่อ้อยไปดำเนินการตรวจสอบ พร้อมทั้งจะเชิญตัวแทนสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยฯ และคณะ เข้าหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประชุมคณะ กมธ. วันที่ 13 ก.พ.68 เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบต่อไป

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง
 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ