31 ม.ค.68- สส. ภัณฑิล พรรคประชาชน ขอให้รัฐบาลทบทวนสถานที่ตั้งเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ บริเวณท่าเรือคลองเตย ชี้ไม่สอดคล้องกับภารกิจของการท่าเรือฯ ย้ำไม่ควรเร่งรีบและต้องศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้าน 

image

        นายภัณฑิล  น่วมเจิม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน แถลงข่าวเกี่ยวกับโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติในหลักการ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปปรับปรุงรายละเอียด ก่อนส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา นั้น ส่วนตัวตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดรัฐบาลจึงรีบเร่งดำเนินโครงการดังกล่าวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการทำให้กาสิโนถูกกฎหมาย ทั้งนี้ ในหลายประเทศ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลาศึกษานานถึง 20 ปี ก่อนที่จะเริ่มโครงการ ในขณะที่รัฐบาลไทยใช้เวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น ตนเห็นว่ารัฐบาลควรศึกษาอย่างรอบคอบ ขณะที่ผลสำรวจของนิด้าโพล พบว่า ประชาชน ร้อยละ 59.61 ไม่เห็นด้วยกับการตั้งสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และร้อยละ 58.32 ไม่เห็นด้วยกับการทำให้พนันออนไลน์ถูกกฎหมาย 

        นายภัณฑิล กล่าวด้วยว่า รัฐบาลควรขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ ตามที่หลายประเทศกำลังขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากกว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการพนันซึ่งเป็นธุรกิจสีเทา และเอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนไม่กี่ราย ที่สำคัญ หากรัฐบาลจะนำพื้นที่บริเวณท่าเรือคลองเตย ซึ่งเป็นทำเลทองกลางกรุงเทพฯ ไปเป็นพื้นที่ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรนั้น เหมาะสมหรือไม่ เพราะการท่าเรือแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ว่าสามารถเปิดช่องให้เอกชนสามารถเข้ามาร่วมทุนหรือจัดตั้งบริษัทลูกในนามของการท่าเรือฯ ได้หรือไม่ เพราะตนเห็นว่า สถานบันเทิงครบวงจรไม่สอดคล้องกับภารกิจของการท่าเรือฯ

        นายภัณฑิล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนและพรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านขอให้รัฐบาลชะลอโครงการสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโนออกไปก่อน เพื่อศึกษาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้าน รวมทั้งเลือกพื้นที่ตั้งโครงการดังกล่าวให้มีความเหมาะสม หรือพิจารณาเมืองรองหรือจังหวัดที่ต้องการพัฒนา ตลอดจนรัฐบาลไทยต้องมีแผนรับมือผลกระทบที่ตามมา โดยเฉพาะการควบคุมการฟอกเงิน การจำกัดการเข้าใช้บริการ และระบบตรวจสอบเงินทุนให้โปร่งใสและครอบคลุมทุกมิติ

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง
 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ