5 ธ.ค. 68 – สส.ภคมน พรรคประชาชน ลงพื้นที่สทิงพระ พบชาวบ้านบ้านดอนคันยังติดน้ำเน่า–ท่วมขังหนัก กระทบสุขภาพและรายได้ของเด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ และเกษตรกร เสนอรัฐบาลเร่งแก้ทั้งระบบ ระบายน้ำระยะสั้นทันที และวางแผนขุดลอกคลองเชื่อมทะเล–ทะเลสาบ 24 สาย เพื่อยุติปัญหาน้ำขังซ้ำซากทุกปี

image

        นางสาวภคมน หนุนอนันต์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาว่า ขณะนี้อำเภอหาดใหญ่เข้าสู่ระยะฟื้นฟู ตนจึงได้ออกสำรวจพื้นที่อำเภอรอบนอกของจังหวัด พบว่าหลายอำเภอใกล้เคียงอำเภอหาดใหญ่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ และน้ำยังไม่มีทีท่าจะลดลง เนื่องจากน้ำระบายไม่ทัน คาดว่าต้องใช้เวลาอีก 1-2 เดือนกว่าจะระบายออกหมดและกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พื้นที่หนึ่งที่ตนมีโอกาสได้เข้าไปเห็นปัญหาด้วยตัวเอง คือบ้านดอนคัน ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ มีประชากรไม่ต่ำกว่า 300 คนที่ยังต้องใช้ชีวิตกับน้ำท่วมขัง และน้ำกำลังเน่าส่งกลิ่นเหม็น กระทบคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นบริเวณใกล้ทะเลสาบ มีน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้ด้วยปริมาณฝนมากกว่าปกติ ส่งผลให้ท่วมขังยาวนานเป็นเวลากว่า 2 เดือน ผลกระทบไม่ใช่แค่เรื่องสุขภาพ แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ชนบท ความช่วยเหลือจึงเข้าไปไม่ถึง ประชาชนขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม และเนื่องจากส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกร เมื่อน้ำท่วมขัง ปลาที่เลี้ยงในบ่อก็เสียหายไปกับกระแสน้ำ ชาวประมงไม่สามารถออกไปหาปลาในทะเลสาบ ทำให้ขาดรายได้ 

        นางสาวภคมน กล่าวต่อว่า ข้อเสนออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้ประชาชนบริเวณคาบสมุทรสทิงพระไม่ต้องตกอยู่ในสภาพแช่น้ำเป็นเวลา 2-3 เดือนแบบนี้ 1.ระยะสั้น ต้องเร่งระบายน้ำอย่างเต็มศักยภาพจากทุกคลองที่มีในปัจจุบัน 2.ระยะยาว รัฐต้องมีแผนขุดลอกคลองหรือสายน้ำเดิมซึ่งเชื่อมต่อระหว่างทะเลสาบกับอ่าวไทย ประมาณ 24 สายน้ำตลอดคาบสมุทรสทิงพระ ทั้งนี้โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติดั้งเดิมของทะเลสาบสงขลา เนื่องจากปัจจุบันทางระบายน้ำระหว่างทะเลสาบสงขลากับอ่าวไทย มี 3 ทางหลัก คือปากทะเลสาบสงขลา คลองพังยาง และคลองหนัง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำที่มีปริมาณมากในปีนี้ ซึ่งการขุดลอกและฟื้นฟูคลองดังกล่าวจะช่วยให้ในช่วงที่ทะเลสาบสงขลามีปริมาณน้ำเยอะ น้ำสามารถระบายออกสู่อ่าวไทยตามธรรมชาติได้โดยเร็วตามแนวความกว้างของแผ่นดินในระยะเฉลี่ย 3-5 กิโลเมตร ตรงกันข้ามหากเรารอให้น้ำระบายออกทางปากทะเลสาบสงขลา ระยะการเดินทางของน้ำ 70 กิโลเมตร การระบายน้ำจะล่าช้ามาก พี่น้องที่อยู่ริมแอ่งทะเลสาบตอนกลางกับตอนบน ต้องจมน้ำเป็นเวลา 2-3 เดือนอย่างที่เป็นอยู่ 

        นางสาวภคมนกล่าวว่า ตนเสนอให้รัฐบาลช่วยแบ่งงบประมาณมาฟื้นฟูคลองทั้ง 24 คลองนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อเสริมคุณภาพชีวิตให้ประชาชนรอบทะเลสาบสงขลา และในระยะยาว ควรสำรวจพื้นที่ที่มีการรุกล้ำลำคลองที่เคยใช้ระบายน้ำ หากจำเป็นต้องมีกระบวนการเจรจาและการชดเชยตามมา ขอให้รัฐบาลจัดการหาทางออกที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนเชื่อว่ารัฐบาลทำได้หากมีความตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา

 

อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย เรียบเรียง

เฟซบุ๊กภคมน ลิซ่า หนุนอนันต์ ข้อมูล/ภาพ

 

 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ