19 ก.ค. 68 - สว.เจียระนัย ชี้ ต้นเหตุค่าไฟฟ้าแพง มาจากแผนผลิตสำรองเกินจริง - ค่าความพร้อมจ่ายไม่เป็นธรรม แนะรัฐบาลลดค่า Ft ใช้กองทุนหนุนช่วงเปลี่ยนผ่าน เปิดทางประชาชนขายไฟเข้าระบบ หวังสร้างความเป็นธรรมและโปร่งใส

image

             นางเจียระนัย ตั้งกีรติ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงปัญหาค่าไฟฟ้าแพงจนส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง แม้ว่ารัฐบาลจะมีความพยายามแก้ไขด้วยการลดค่าไฟฟ้าลงเหลือหน่วยละ 4 บาท แต่ยังเกิดคำถามตามมาว่า ทั้งที่ประเทศไทยมีโรงไฟฟ้าจำนวนมากและไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนพลังงาน เหตุใดประชาชนจึงยังต้องแบกรับภาระค่าไฟที่สูงเกินความจำเป็น ทั้งนี้สาเหตุสำคัญของค่าไฟฟ้าแพงมาจากการวางแผนผลิตไฟฟ้าสำรองไว้มากเกินไป ทำให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายในรูปแบบค่าความพร้อมจ่าย หรือ Availability Payment (AP) ที่รัฐต้องจ่ายให้แก่ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน แม้จะไม่มีการใช้ไฟฟ้าจริง นอกจากนี้ยังมีปัญหาต้นทุนเชื้อเพลิง การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง การไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส และการใช้ทรัพยากรต่ำกว่าศักยภาพ ล้วนส่งผลให้ค่าไฟฟ้าที่สูงเกินควร อีกทั้งการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนยังอิงต้นทุนในอดีตโดยไม่สะท้อนพัฒนาการทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ส่งผลให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงโดยไม่จำเป็น ดังนั้นจึงเสนอแนวทางแก้ปัญหา ประกอบด้วย ลดค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) โดยอาศัยอำนาจของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงาน ใช้กองทุนพัฒนาไฟฟ้า และพิจารณากลไกชดเชยข้ามกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่หน่วยละ 3.80 บาท ทบทวนและยุติสัญญากับโรงไฟฟ้าเอกชนที่ไม่จำเป็น หรือมีต้นทุนการผลิตสูงเกินจริง จัดทำข้อมูลเปรียบเทียบโรงไฟฟ้าทั้งระบบ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ เพื่อทบทวนแผนพลังงานและกำลังการผลิต และเปิดตลาดเสรีไฟฟ้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจากการให้สิทธิ์ในการเข้าถึงระบบสายส่งแก่ผู้ผลิตไฟฟ้ารายย่อยหรือภาคประชาชน เพื่อขายไฟเข้าสู่ระบบได้โดยตรง ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม โดยมี กกพ. กฟผ. และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ร่วมกำกับดูแลด้านธรรมาภิบาล

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ