นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา นำผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมพิธีปิดการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) ครั้งที่ 150 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4 ถึง 11 เมษายน 2568 ที่ประชุมให้การรับรอง ปฏิญญาทาชเคนต์ (Tashkent Declaration) ในการพัฒนาสังคมและความยุติธรรม ยกระดับสังคมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ทั้งที่มีอยู่ หรือจะเกิดขึ้นใหม่ ตลอดจนการปรับโยบายเพื่อสร้างสมดุล ระหว่างความต้องการของตลาด และความต้องการของประชาชน โดยมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนจากความยากจน ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง, การพัฒนาเศรษฐกิจตามระบอบประชาธิปไตย เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมโดยเฉพาะสตรีและเยาวชน
ที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา พิจารณารับร่างข้อมติที่นำเสนอโดยคณะกรรมาธิการสามัญสหภาพรัฐสภาว่าด้วยสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ในหัวข้อบทบาทของรัฐสภาในการผลักดันแนวทางสองรัฐในปาเลสไตน์ (The role of Parliaments in advancing a two-State solution in Palestine) ซึ่งมีสาระสาระสำคัญในการเน้นบทบาทของรัฐสภาในการส่งเสริมการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ด้วยสันติวิธี อาศัยหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องให้มีการหยุดยิงกาซาทันที ยุติการปิดล้อม และปล่อยตัวประกัน พร้อมทั้งสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรม และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมถึงสนับสนุนให้รัฐสภา ใช้บทบาทเชิงนิติบัญญัติสนับสนุนทางออกแบบสองรัฐให้เป็นรูปธรรม โดยรับรองการมีอยู่ของทั้งอิสราเอล และปาเลสไตน์ ในฐานะรัฐอธิปไตยที่เป็นอิสระ รวมทั้งมีมติรับรองร่างข้อมติจากคณะกรรมาธิการวิสามัญสหภาพรัฐสภาว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน หัวข้อกลยุทธ์ของรัฐสภาในการบรรเทาผลกระทบระยะยาวของความขัดแย้ง รวมถึงความขัดแย้งด้วยอาวุธ ต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Parliamentary strategies to mitigate the long-lasting impact of conflicts, including armed conflict, on sustainable development) มีสาระสำคัญโดยเน้นบทบาทของรัฐสภา ในการบรรเทาผลกระทบจากความขัดแย้ง และส่งเสริมสันติภาพ รวมถึงหลักมนุษยธรรม เน้นความสำคัญของหลักสิทธิมนุษยชน คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการที่เปิดกว้างและครอบคลุม ในการฟื้นฟูประเทศหลังความขัดแย้ง ลดการสร้างเงื่อนไขของความขัดแย้งใหม่ มีกฎหมายที่เป็นธรรม เป็นต้น
ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง