19 มี.ค.68 - สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน เรียกร้องรัฐเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำ - ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการทำเหมืองแร่ต้นน้ำกก หวั่นน้ำปนเปื้อนสารเคมีกระทบสุขภาพประชาชน พร้อมผลักดันมาตรการถาวร ปกป้องลุ่มน้ำข้ามพรมแดน

image

        นายสมดุลย์ อุตเจริญ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน พร้อมด้วยนายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมแถลงข่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ กำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมและผลกระทบข้ามพรมแดนจากการทำเหมืองทองคำต้นน้ำกก ซึ่งมีการทำเหมืองแร่ทองคำ ตลอด 24 ชั่วโมง กำลังขุดทำลายต้นน้ำกก ที่อยู่ห่างจากชายแดนไทยไปเพียงประมาณ 7 กิโลเมตร ซึ่งดินโคลนจากการทำเหมือง ทำให้น้ำขุ่นข้นและอาจมีการปนเปื้อนของดินโคลนและสารเคมีในน้ำ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและระบบนิเวศในพื้นที่ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องเผชิญกับน้ำท่วมและขาดแคลนน้ำสะอาดใช้ รวมทั้งผลกระทบทางมลพิษที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนและเด็กๆในพื้นที่ ดังนั้น จึงขอให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบคุณภาพน้ำว่ามีผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้น้ำเพื่อการบริโภคอุปโภคอย่างไร และจัดส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบคุณภาพน้ำ และผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม อย่างเร่งด่วน พร้อมผลักดันให้มีมาตรการถาวร เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศด้านสิ่งแวดล้อม ป้องกันไม่ให้เกิดการทำลายลุ่มน้ำข้ามพรมแดนในลักษณะเช่นนี้อีก รวมถึงปัญหาฝุ่นควันที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนทั้งสองประเทศในขณะนี้ พร้อมย้ำว่า การปกป้องแม่น้ำกกไม่ใช่เพียงภารกิจของประชาชนในพื้นที่เท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของทุกภาคส่วนที่ต้องร่วมมือกัน เพื่อสิทธิของชุมชน และอนาคตของลูกหลาน
        ด้าน นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังที่ประชุม กมธ.การที่ดิน ได้พิจารณาปัญหาดังกล่าว ได้มีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบการปนเปื้อนของแหล่งน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำกก หลังมีรายงานจากภาคประชาชนเกี่ยวกับความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติขยายขอบเขตการตรวจสอบไปยังอำเภอแม่สาย เนื่องจากพบว่า บริเวณต้นน้ำของแม่น้ำสายมีการทำเหมืองแร่ทองคำจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพน้ำและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งได้หารือกับกรมควบคุมมลพิษ เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชน พร้อมย้ำว่าประเด็นมลพิษข้ามแดนไม่ใช่เพียงปัญหามลพิษทางอากาศ แต่ยังรวมถึงมลพิษทางน้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในภูมิภาค ทั้งนี้ กมธ. เห็นว่าประเทศไทยควรเร่งดำเนินมาตรการและจัดทำมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและลดผลกระทบจากมลพิษข้ามแดน

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ