นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ว่า พรรคพลังประชารัฐได้กำหนดประเด็นหลักที่จะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายประมาณ 2 เรื่อง คือ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และเรื่องการเจรจาผลประโยชน์ร่วมกันในเขตพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนไทย-กัมพูชา ตาม MOU44 โดยจะเป็นการตั้งคำถามไปที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นหลัก โดยเชื่อว่า ประเด็นที่จะนำมาอภิปรายมีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคนต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ และหากตอบได้ไม่ชัดเจนก็จะเกิดปัญหา ซึ่งการอภิปรายนี้จะเป็นการเปิดประเด็นให้เห็นพฤติการณ์ในเรื่องที่สังคมไม่เคยรับรู้มาก่อน
ส่วนการอภิปรายครั้งนี้จะสามารถล้มรัฐบาลได้หรือไม่นั้น นายไพบูลย์ มองว่า นายกรัฐมนตรีมีปัญหาเยอะอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่มีผลให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรีก็อาจจะมีปัญหาสืบเนื่องจากผลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และทำให้สังคมได้รู้อะไรมากขึ้น
นอกจากนี้ นายไพบูลย์ ยังเปิดเผยถึงแนวทางการทำงานของพรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้พรรคมีคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การดำเนินการของ สส. ในสภาฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุตามอุดมการณ์ โดยมีนายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร เป็นประธานคณะทำงาน และมีคณะทำงาน ประกอบด้วย นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย นางสาวกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี นายวิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ นายบุรินทร์ สุขพิศาล และ นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช เป็นเลขานุการคณะทำงาน
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง